รวมทั้งหมด

10 มาสไรเดอร์ตัวหลัก(heisei)



มาสค์ไรเดอร์ หรือ คาเมนไรเดอร์ เป็นชื่อชุดของภาพยนตร์ โทคุซัทสึซึ่งสร้างสรรค์จากความคิดของ โชทาโร่ อิชิโนะโมริ ที่ได้รับความนิยมและมีการสร้างอย่างต่อเนื่องที่สุดชุดหนึ่งของญี่ปุ่น สำหรับในประเทศไทย ภาพยนตร์ชุดนี้ โดยเฉพาะภาพยนตร์ในซีรีส์แรก ๆ มักนิยมเรียกกันว่า ไอ้มดแดง ตามชื่อเมื่อฉายครั้งแรกในไทย (ทั้งๆที่ในความเป็นจริง ไม่มีไรเดอร์คนใดเลยที่มีต้นแบบมาจากมด)




Kamen-rider-kuuga

kamenrider Kuga

มาสค์ไรเดอร์คูกะ  เป็นภาพยนตร์มาสค์ไรเดอร์ ซีรีส์ลำดับที่ 10 และเป็นซีรีส์แรกที่ได้ทำขึ้นหลังจากยุคโชวะ (ไรเดอร์ที่ฉายทางทีวี) ออกอากาศครั้งแรกเมื่อวันที่ 30 มกราคม ค.ศ. 2000 จนถึง 21 มกราคมค.ศ. 2001 รวมทั้งหมด 49 ตอน

ชื่อของคูกะ หรือ Kuuga มาจากคำว่า Kugawata แปลว่าด้วงกว่าง ซึ่งส่วนหัวของคูกะจะคล้ายกับด้วงกว่าง อีกทั้งในเพลงเปิดเรื่องจะมีฉากน้ำเลี้ยงจากต้นไม้ ซึ่งเป็นอาหารของด้วงกว่าง

เนื้อเรื่อง

ในอดีตเมื่อนานมาแล้วมีนักรบคนหนึ่งได้ทำการต่อสู้กับสิ่งมีชีวิตลึกลับชนิดหนึ่งที่ชื่อว่าสิ่งมีชีวิตลึกลับกูรอนกิ และเมื่อสามารถจัดการกับราชัยน์ของกูรอนกิได้ นักรบคนนั้นก็ใช้ร่างของตนเองผนึกราชัยน์ของกูรอนกิ แต่ต่อมาสถานที่นี้ก็ถูกค้นพบโดยนักโบราณคดีที่ชื่อว่า ดร.นัตสึนามิ ทำให้ราชัยน์ของกูรอนกิได้ฟื้นคืนชีพกลับมาอีกครั้ง และได้ปลุกเหล่าปิศาจกูรอนกิออกมา และวันรุ่งขึ้นโกได ยูสุเกะ (ไรเดอร์คูกะ) ก็ไปถึงที่เกิดเหตุ เขาได้พบตำรวจคนหนึ่งชื่ออิชิโจ คาโอรุ เขาได้นำของชิ้นหนึ่งที่พบในที่เกิดเหตุออกมา ทันทีที่โกไดได้เห็นของชิ้นนั้น เขาเห็นภาพบางอย่างในใจของเขา และในระหว่างนั้นก็มีปิศาจได้ออกมาทำร้ายผู้คน ด้วยความโกรธแลภาพนักรบที่อยู่ในหัวตลอดเวลาทำให้โกไดตัดสินใจใส่เข็มขัด และเมื่อเขาพยายามจะต่อสู้กับปิศาจ เขาก็พบความเปลี่ยนแปลงของร่างกายเขา ร่างของนักรบที่เขาเคยเห็น ปรากฏตัวขึ้นแล้ว และเรื่องก็เริ่มขึ้นหลังจากนั้น

ตัวละครหลัก

มาสค์ไรเดอร์คูกะ / โกได ยูสุเกะ
ชายหนุ่มมาดเซอร์ ผู้แปลงร่างเป็น "มาสค์ไรเดอร์ คูกะ" ด้วยความบังเอิญ มีอาชีพหลักคือเป็นพนักงานเสิรฟ์ของร้าน Cafe-coffee แต่โดยส่วนใหญ่ ยูสุเกะจะชอบออกท่องเที่ยวผจญภัยต่างๆตามธรรมชาติเพื่อเก็บประสบการณ์และทำตามความฝันของตนเองและเจริญรอยตามผู้เป็นพ่อ มักจะยกนิ้วโป้ง เป็นลักษณะประจำตัว และมีคำประจำตัวคือ " ผมจะไม่ให้ทุกคนต้องเสียน้ำตาอีกต่อไปแล้ว "
คาโอรุ อิจิโจ
สารวัตรตำรวจหนุ่มผู้เงียบขรึม ที่รู้เรื่องการแปลงร่างของยูสึเกะ มีหน้าที่เป็นผู้นำในการดำเนินงานของกองกำลังตำรวจ และ จะช่วยยูสึเกะในการช่วยปราบกูรอนกิตัวต่างๆ อิจิโจเก่งในการยิงปืนทุกชนิดไม่ว่าจะเป็นปืนชนิดใดก็ตาม ตอนเริ่มเรื่องอยู่สน.ยาโงย่า และได้ถูกย้ายมาประจำที่หน่วยพิเศษ เพื่อต่อต้านเหล่าสิ่งมีชีวิตที่ไม่สามารถระบุประเภทได้ที่โตเกียว มุ่งมั่นต่องานมากขนาดแม่ป่วย หรือสาวตามจีบก็จำทนไม่สนใจ
ซาวาตาริ ซากุระโกะ
นักโบราณคดีสาวที่ทำการถอดรหัสภาษาโบราณ เป็นเพื่อนสนิทของยูสึเกะตั้งแต่เด็กๆ จึงรู้นิสัยของยูสึเกะเป็นอย่างดี และไม่ชอบให้ยูสึเกะ ปีนเข้า-ออกทางหน้าต่างสักเท่าไหร่ ในใจลึกๆแล้ว เธอชอบยูสึเกะ แต่ไม่เคยแสดงออกเท่าใดนัก เธอมีความสามารถในเชิงโบราณคดีสูง และคอยซัพพอร์ตเรื่องข้อมูลจากอักขระให้โกไดและอิจิโจอยู่เสมอ แต่ในใจไม่ได้ต้องการให้โกไดต้องมาแบกภาระหน้าที่ที่หนักอึ้ง
ซึบากิ ชูอิจิ
นายแพทย์ประจำของกรมตำรวจเป็นเพื่อนสนิทของอิจิโจและคอยดูแลและปรึกษาของยูสุเกะซึ่งเกี่ยวกับเข็มขัดอัมดัมที่อยู่ในตัวของยูสุเกะ แม้ว่าเขาจะเป็นคนที่เบาเขาอย่างจริงจังและเป็นกังวล แต่พอมีเหตุร้ายเกิดขึ้นเขาก็พร้อมจะรับมือและสู้อย่างจริงจังสุดความสามรถของตนเอง แบบนี้
โกได มิโนริ
น้องสาวของยูสุเกะเป็นครูสอนอนุบาลวากาบะและคอยดูและยูสึเกะซึ่งเป็นพี่ชายของเธอมาตลอด ซึ่งดูแล้ว เธอน่าจะทราบว่าพี่ชายของเธอคือ หมายเลข 4 (คูกะ) ในครั้งที่พี่ชายชีพจรหยุดเต้น เธอกลับเป็นคนที่เชื่อในสัญญาของพี่ชายว่าเขาจะต้องกลับมา

ตัวประกอบ


  • อาโนคิดะ ฮิคาริ
ทีมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งกรมตำรวจ ผู้พัฒนาอาวุธสารพัดให้ตำรวจ เพื่อต่อกรกับเหล่าอมนุษย์ อีกทั้งยังเป็นคนพัฒนามอเตอร์ไซด์ให้คูกะด้วย แต่เพราะงานล้นมือมาก จึงมีปัญหาในการให้เวลากับซายูรุ(ลูก) ในครั้งที่เจอโกไดครั้งแรกก็ดูจะเมนเฉยไม่สนใจ แต่ก็ค่อยๆ สนับสนุนและให้กำลังใจโกไดในเวลาต่อมา
ฌอณ มิเชล โซเลอิล
ชายหนุ่มครึ่งอังกฤษครึ่งญี่ปุ่นเป็นคนค้นพบโกรัมในสภาพเป็นรูปร่างที่ไม่สมบูรณ์ แล้วได้นำไปตรวจสอบแล้วพบว่าเป็น "ชุดเกราะอาชา" ของพาหนะของมาสค์ไรเดอร์คูกะ ชอล์ดทำหน้าที่เป็นนักโบราณคดีเหมือนกับ ซากุระโกะ และยังรู้จัก ซากุระโกะ กับ ยูสึเกะเป็นอย่างดีด้วย

  • คาซาริ ทามาซึนาโอะ
เพื่อนของพ่อของ ยูสึเกะ ที่ช่วยคอยเลี้ยงดู ยูสึเกะ กับ มิโนริ แทนพ่อของ ยูสึเกะ เป็นเจ้าของร้าน Cafe-Coffee
อาซาฮินะ นานะ
หลานสาวของ ซาบุโร่ มีความฝันอย่างเป็นนักแสดง นานะ ช่วยงานคาซาริที่ร้าน Cafe-Coffee อยู่เป็นประจำ

  • ซึงิตะ โมรินิชิ
หัวหน้าของเจ้าหน้าที่ของตำรวจโตเกียว เป็นหนึ่งในทีมตำรวจที่คอยช่วยเหลือ ยูสึเกะ กับ อิจิโจ และ ลูกน้องในทีม ในการกำจัดกูรอนกิ
ซากุราอิ ทัตสึโยชิ
เจ้าหน้าที่ของตำรวจโตเกียว เป็นลูกน้องของ โมรินิชิ กับ อิจิโจ เป็นผู้ช่วยคนสำคัญคนหนึ่งในทีมตำรวจโตเกียว ในการกำจัดกูรอนกิ
คันซากิ อาคิชิ
ครูประถมของ ยูสึเกะ ผู้เป็นคนสอนให้ ยูสึเกะ ชูนิ้วหัวแม่มื้อเพื่อเป็นกำลังใจ

  • ซาซายามิ โนโซมิ
ตำรวจสาวเป็นหนึ่งในเจ้าหน้าที่ของตำรวจโตเกียว ที่คอยประกาศข่าวให้กับ กรมตำรวจโตเกียว ว่ากูรอนกิจะปรากฏตัวมาตอนไหน

  • มัตซึคุระ ซาดาโอะ
ผู้บัญชาการกรมตำรวจโตเกียว ซึ่งเป็นหัวหน้าในการวานแผนจัดการทุกอย่างในกรมตำรวจ

ร่างต่างๆของ คูกะ

คาเมนไรเดอร์คูกะ (Kamen Rider Kuuga) มีร่างทั้งหมด 12 ร่าง ได้แก่
Krk-KuugaGF
โกรวอิ้งฟอร์ม (Growing Form) ร่างสีขาว ซึ่งเป็นร่างแรก มีพลังน้อยกว่าไมท์ตี้ฟอร์มครึ่งนึง เมื่อคูกะถูกโจมตีเสียหายรุนแรงจะกลายเป็นร่างนี้
Rider height: 190cm (6ft 2in)
Rider weight: 90kg (198.4lbs)
Ability perimeters:
Punching power: 1 t.
Normal kicking power: 10 t.
Maximum jump height: 10 m. (49 ft., 2 in.)
Maximum running speed: 100 m. per 7.2 seconds (328 ft. per 7.2 seconds)
KRK-Kuuga
 ไมท์ตี้ฟอร์ม (Mighty Form) ร่างสีแดง เป็นร่างที่ใช้บ่อยที่สุด ตัวแทนแห่งพลังเพลิง มีพลังแห่งความสมดุล ทั้งด้านความเร็ว สัมผัสพิเศษ และ พลังโจมตี มีท่าไม้ตายคือ ไมท์ตี้ คิก มีพลังมากกว่าโกรวอิ้งฟอร์มถึงเท่าตัว และมีพลังมากกว่า มนุษย์ธรรมดาถึง 10 กว่าเท่า
Rider height: 200 cm. (6 ft., 5 in.)
Rider weight: 99 kg. (218.2 lbs.)
Ability perimeters:
Punching power: 3 t.
Normal kicking power: 10 t.
Maximum jump height: 15 m. (49 ft., 2 in.)
Maximum running speed: 100 m. per 5.2 seconds (328 ft. per 5.2 sec)
Finishing Attack Power: 30 t. (Mighty Kick)
Krk-KuugaDF
 ดราก้อนฟอร์ม (Dragon Form) ร่างสีน้ำเงิน ตัวแทนแห่งพลังวารี เป็นร่างที่โดดเด่นด้านความเร็วและแรงกระโดด แต่พลังการโจมตีต่ำ จึงจำเป็นที่ต้องใช้อาวุธประเภทแท่งยาว จำพวกกระบอง เป็นต้น
Rider height: 200 cm. (6 ft., 5 in.)
Rider weight: 90 kg. (198.4 lbs.)
Ability perimetersPunching power: 1 t.
Normal kicking power: 3 t.
Maximum jump height: 30 m. (98 ft., 4 in.)
Maximum running speed: 100 m. per 2 seconds (328 ft. per 2 sec)
Krk-KuugaPF
 เปกาซัสฟอร์ม (Pegasus Form) ร่างสีเขียว ตัวแทนแห่งพลังวายุ เป็นร่างที่มีความโดดเด่นด้านสัมผัสพิเศษ รับรู้ได้มากกว่าบุคคลธรรมดาหลายเท่า แต่ข้อเสียคือ จะอยู่ในฟอร์มนี้ได้เพียง 50 วินาที และจะไม่สามารถแปลงร่างได้ หลังจากใช้ร่างนี้ ถึง 2 ชั่วโมง
Rider height: 200cm.(6ft.;5in)
Rider weight: 99 kg. (218.2lbs.)
Ability perimeters
Punching power: 1 t.
Normal kicking power: 3 t.
Maximum jump height: 15 m. (164 ft.)

Maximum running speed: 100 m. per 5.2 seconds (328 ft. per 5.2 seconds)

Krk-KuugaTF
 ไททันฟอร์ม (Titan Form)ร่างสีม่วง ตัวแทนแห่งพลังปฐพี เป็นร่างที่โดดเด่นในด้านการโจมตีและพลังป้องกัน แต่พลังด้านความเร็วต่ำ
Rider height: 200 cm. (6 ft., 5 in.)
Rider weight: 111 kg.
Ability perimeters
Punching power: 7 t.
Normal kicking power: 10 t.
Maximum jump height: 10 m. (32 ft. and 8 in.)
Maximum running speed: 100m per 7.2 seconds (328 ft. per 7.2 seconds)
Krk-KuugaAMF
อเมซิ่งไมท์ตี้ฟอร์ม (Amazing Mighty Form) ร่างดำขลิบทอง เป็นร่างพิเศษ ที่เพิ่มพลังอัสนี เอาไว้อย่างเต็มเปี่ยม มีท่าไม้ตายคือ อเมซิ่ง ไรเดอร์ คิก โดยการกระโดดเตะ2ข้างพร้อมกัน จุดเด่นคือ มีลักษณะคล้ายร่างไรซิ่ง ไมท์ตี้ฟอร์ม แต่เป็นชุดสีดำ มีพลังอัสนีเพียงอย่างเดียว มีสนับขาทั้ง 2 ข้าง
Rider height: 200 cm. (6 ft., 5 in.)
Rider weight: 125 kg. [275.5 lbs.]
Ability perimeters:
Punching power: 35 t.
Normal kicking power: 50 t.
Maximum jump height: 60m (196 ft., 10 in.)

Maximum running speed: 100 m. per 5.2 seconds (328 ft. per 5.2 sec)


Krk-KuugaUF
อัลติเมทฟอร์ม (Ultimate Form) ร่างสีดำมีเขา แฉก เป็นร่างสุดยอด สามารถควบคุมพลังธรรมชาติได้อย่างใจนึก แต่ข้อเสียคือ ถ้าผู้ใช้มีจิตใจในด้านมืด อัลติเมทฟอร์มจะเป็นดั่งอาวุธทำลายล้างโลก ดวงตาจะเป็นสีดำ แต่ถ้าผู้ใช้มีจิตใจที่ดีงาม จะเป็นดั่งเทพที่คอยปกป้องโลกดวงตาจะเป็นสีแดงสดใส
Rider height: 202 cm. (6 ft., 5 in.)
Rider weight: 150 kg. (330.6 lbs.)
Ability perimeters
Punching power: 80 t.
Normal kicking power: 100 t.
Maximum jump height: 50 m. (164 ft.)
Maximum running speed: 100 m. per 2 seconds (328 ft per 2 seconds)

Kamen Rider Kuuga Rising Ultimate FormQs5jl1 
ไรซิ่งอัลติเมทฟอร์ม (Rising Ultimate Form) ร่างสุดยอดเหนือสุดยอดของคูกะ เป็นร่างดำสลับทอง เป็นร่างที่เพิ่มพลังอัสนีและพลังธรรมชาติ เข้าไว้ด้วยกัน ทำให้มีพลังเหนือกว่าอัลติเมทฟอร์ม ซึ่งร่างนี้ไม่ได้ปรากฏในทีวีซีรีส์ แต่ปรากฏตัวครั้งแรกใน มาสค์ไรเดอร์ดีเคด เดอะมูฟวี ออลไรเดอร์ ปะทะ ไดช็อกเกอร์ ผู้แปลงร่างคือ โอโนเดระ ยูสึเกะ คูกะในโลกคู่ขนาน
Rider height: 200 cm. (6 ft., 5 in.)
Rider weight: 150 kg. (330.6 lbs.)
Ability perimeters
Punching power: 100 t
Normal kicking power: 120 t.
Maximum jump height: 110 m. (360.8 ft.)
Maximum running speed: 100 m. per 1 seconds (328 ft per 1 seconds)

และร่างrisingต่างๆ(ร่างย้อมทอง)

Krk-KuugaRMF
ไรซิ่งไมท์ตี้ฟอร์ม (Rising Mighty Form) ร่างสีแดงขลิบทอง เป็นร่างที่เพิ่มพลังอัสนีกับพลังเพลิง เข้าไว้ด้วยกัน ปรากฏเป็นร่างสุดท้ายในบรรดาไรซิ่ง ฟอร์ม มีพลังการเตะที่เพิ่มขึ้น แต่ในขณะเดียวกัน พลังในการทำลายถึงมีอาณาบริเวณถึง4กิโลเมตร ทำให้ต้องหาสถานที่รกร้าง เพื่อป้องกันการเสียหายจากการใช้ท่าไม้ตาย(อยู่ในร่างนี้ได้แค่ 30 วินาที)
Krk-KuugaRDF
ไรซิ่งดราก้อนฟอร์ม (Rising Dragon Form) ร่างสีน้ำเงินขลิบทอง เป็นร่างที่เพิ่มพลังอัสนีกับวารี เข้าไว้ด้วยกัน มีพลังในด้านความเร็วเพิ่มขึ้นอย่างเท่าตัว (อยู่ในร่างนี้ได้แค่ 30 วินาที)
Krk-KuugaRPF
ไรซิ่งเปกาซัสฟอร์ม (Rising Pegasus Form) ร่างสีเขียวขลิบทอง เป็นร่างที่เพิ่มพลังอัสนีและวายุ เข้าไว้ด้วยกัน เพิ่มความสามารถด้านสัมผัสพิเศษได้ดี (อยู่ในร่างนี้ได้แค่ 30 วินาที)
Krk-KuugaRTF
ไรซิ่งไททันฟอร์ม (Rising Titan Form) ร่างสีม่วงขลิบทอง เป็นร่างที่เพิ่มพลังอัสนีกับพลังปฐพี เข้าไว้ด้วยกัน เป็นร่างแรกสุดในบรรดาไรซิ่ง ฟอร์ม มีพลังในการโจมตีเพิ่มขึ้น (อยู่ในร่างนี้ได้แค่ 30 วินาที)



Rider-Agito-GroundPWRUP-02




มาสค์ไรเดอร์อากิโตะ เป็นมาสค์ไรเดอร์ลำดับที่ 11 และเป็นซีรีส์ฉลองครบรอบวาระ 30 ปีของมาสค์ไรเดอร์อีกด้วยออกอากาศเมื่อวันที่ 28 มกราคม ค.ศ. 2001 ถึงวันที่ 27 มกราคม ค.ศ. 2002 ออกอากาศทั้งหมด 51 ตอนและมีภาพยนตร์ตอนพิเศษอีก 1 ตอนคือ PROJECT G4

เนื้อเรื่องย่อ

เกิดเหตุการณ์ประหลาด เมื่อมีสิ่งมีชีวิตที่ไม่สามารถระบุสายพันธุ์ได้ออกไล่ฆ่าคนอย่างลึกลับ ทางกรมตำรวจได้เรียกสิ่งมีชีวิตเหล่านั้นว่า อันโนน และทำการสร้างระบบ G3 ขึ้นเพื่อใช้ต่อต้านอันโนน โดยทำการคัดเลือก ฮิคาวะ มาโคโตะ วีรบุรุษจากเหตุการณ์เรืออากาสึกิล่ม
ศจ. มิสุงิ โยชิฮิโกะ พบผู้ชายคนหนึ่งนอนสลบอยู่ตรงชายหาดหลังเหตุการณ์เรืออากสึกิล่ม ชายคนนี้ไม่มีความทรงจำใดๆเหลืออยู่เลยนอกจากซองจดหมายในกระเป๋าเสื้อจ่าหน้าไว้ว่า สึงามิ โชอิจิ จึงใช้ชื่อนั้นเป็นชื่อตนเองและอาศัยอยู่ในบ้านของ ศจ.โยชิฮิโกะ ซึ่งมี ไทจิลูกชาย และมานะ หลานสาว ซึ่งเป็นลูกสาวของพี่ชายของศจ.โยชิฮิโกะ
โชอิจิได้ค้นพบว่าตนเองมีความสามารถในการตรวจพบตัวตนของอันโนนและพบว่าตนเองสามารถแปลงร่างเป็นสิ่งที่เรียกว่าอากิโตะได้ ในขณะเดียวกันอาชิฮาร่า เรียวได้ค้นพบพลังแบบเดียวจึงได้ออกเดินทางตามหาอดีตของพ่อ ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้โดยสารเรืออากาสึกิ
ทั้ง 3 ต่างต่อสู้กับอันโนนและต้องไขปริศนาของอันโนนถึงเหตุผลที่ต้องฆ่ามนุษย์และเรืออากาสึกิ

ตัวละคร

ตัวละครหลัก



มาสค์ไรเดอร์อากิโตะ / สึงามิ โซอิจิ(ซาวาคิ ทัตสึยะ ตัวจริง)
ชายหนุ่มผู้เสียความทรงจำเป็นหนึ่งในผู้โดยสารของเรืออากาสึกิที่รอดชีวิต มีอาชีพเป็นพ่อบ้านของบ้านมิสุงิและปลูกผักสวนครัว
มาสค์ไรเดอร์ G3 / มาสค์ไรเดอร์ G3-X / ฮิคาวะ มาโคโตะ 
นายตำรวจของสำนักงานตำรวจญี่ปุ่นผู้สวมเกราะ G3 และ G3-X สนิทกับโยชิฮิโกะและโซอิจิเป็นอย่างดี
มาสค์ไรเดอร์กิลล์ / มาสค์ไรเดอร์ เอ็กซีดกิลล์ / อาชิฮาร่า เรียว
ชายหนุ่มอดีตนักกีฬาว่ายน้ำ แต่ด้วยพลังของอากิโตะทำให้เรียวไม่สามารถที่จะทำตามความฝันได้อีก เหตุที่ได้รับพลังอากิโตะ เนื่องจากการเสียชีวิตของพ่อของเขา ซึ่งเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์เรืออาคาสึกิล่ม โดยพลังอากิโตะในตัวเรียวเป็นพลังที่ไม่สมบูรณ์ซึ่งจะทำการดูดกลืนชีวิตของผู้ใช้พลังหลังแปลงร่างทีละน้อย มีผลแทรกซ้อนโดยจะทำให้มีผิวหนังที่มือคล้ายกับคนชรา ทำให้เรียวมักจะได้รับความทรมานและความบอบช้ำจากการใช้พลัง มีครั้งหนึ่งเรียวใช้พลังจนสลบไปและได้ยินเสียงของพระเจ้าในหัวของเขาที่พยายามจะสั่งให้เรียวโจมตีผู้ที่มีพลังจิต แต่ก็รอดมาได้ เคยตายมาแล้วครั้งหนึ่ง แต่ก็ได้รับการช่วยเหลือจากมานะจนกลับมามีชีวิตอีกครั้ง และผลแทรกซ้อนของพลังที่ดูดกลืนชีวิตก็ค่อยๆหายไป และได้กลายเป็นเอ็กซ์ซีดกิลล์ที่มีพลังอย่างเต็มเปี่ยมสามารถเทียบอากิโตะได้ และผลแทรกซ้อนก็หายไป โดยในเรื่องนั้นเรียวพบรักกับสาว3คน คนแรกคือแฟนเก่าที่คบกันสมัยเรียวเป็นนักว่ายน้ำ คนที่สองคือซาคากิ อากิสาวผู้มีพลังจิตที่ยอมรับในตัวเรียวและตัวกิลล์เพราะคิดว่าเธอและเรียวต่างก็โชคร้ายเหมือนกัน คนที่สามเป็นคนที่เรียวเจอที่ร้านมอเตอร์ไซค์
อนาเธอร์ อากิโตะ / นพ.คิโนะ คาโอรุ 
ศัลยแพทย์ผู้แปลงร่างเป็นอากิโตะอีกรูปแบบ เป็นหนึ่งในผู้โดยสารของเรืออากาสึกิที่รอดชีวิต แม้จะมีนิสัยทรนงแต่ซ่อนความรู้สึกห่วงใยและความรักที่มีต่อน้องของเขาเอาไว้
ความตั้งใจแรกของคิโนะคือต้องการกำจัดอากิโตะและกิลล์เพื่อให้เป็นอากิโตะที่แท้จริง แต่หลังจากที่ได้รู้ความจริงและความตั้งใจที่ดีงามของอากิโตะ ทำให้คิโนะร่วมมือกับอากิโตะในที่สุดแต่ต้องเสียชีวิตไปด้วยการโจมตีของอัลโนน
คาซุยะ มานะ
สาวน้อยวัย16ผู้มีพลังจิต สามารถรับรู้ถึงพลังอากิโตะและอันโนน โดยพลังจิตของมานะนั้นมีความแกร่งกล้ามาก แต่มักจะไม่แสดงออกเนื่องจากอาจจะทำให้คนอื่นหวาดกลัว แต่ต่อมาพลังก็ถูกปลุกถึงขั้นสูง พลังจิตของมานะคือการสัมผัสสิ่งของก็จะสามารถรู้ถึงที่มาที่ไปได้ และยังรับรู้อดีต ปัจจุบัน และอนาคตได้จากภาพนิมิตพลังจิตซาคากิ อากิ 
สาวสายผู้มีพลังจิต เป็นคนที่เรียวแอบชอบ โดยเธอนั้นก็แอบชอบเรียว แต่หลังจากที่เธอคิดว่าเรียวตาย พลังจิตก็พุ่งสูงจนกลายเป็นเป้าของอันโนน

ตัวประกอบ



มิสุงิ โยชิฮิโกะ 
มิสุงิ ไทจิ 
ลูกชายของโยชิฮิโกะ
โอซาวะ สุมิโกะ
หัวหน้าของหน่วย G3 เป็นผู้พัฒนาชุดเกราะ G3
G3-Mind / โอมุโระ ทาคาฮิโระ
หนึ่งในสมาชิกของหน่วย G3 ทำหน้าที่ในการค้นหาอันโนน
V1 / โฮโจ โทรุ
นายตำรวจอัจฉริยะที่มีนิสัยอิจฉาริษยาคนอื่น คอยหาทางเล่นงานโอซาวะอยู่บ่อยครั้ง แต่สุดท้ายกลับตกหลุมรักและกลายเป็นคนรักของโอซาวะในที่สุด
ซาวาคิ ทัตสึยะ  (สึงามิ โชอิจิ ตัวจริง)
คนรักของยูคินะ มีความแค้นกับโซอิจิ(ทัตสึยะ)ในฐานะมนุษย์ที่มีพลังจิต
ซาวาคิ ยูคินะ 
พี่สาวของโซอิจิ(ทัตสึยะ)เสียชีวิตด้วยการฆ่าตัวตายเนื่องจากยอมรับสภาพที่ตนเองกลายเป็นอากิโตะไม่ได้ และพลังอากิโตะของเธอได้สืบทอดไปยังน้องชายของเธอ

ร่างต่างๆของอากิโตะ



KamenRiderAgito

กราวด์ฟอร์ม



กราวด์ฟอร์ม

กราวด์ฟอร์ม เป็นร่างพื้นฐานของอากิโตะมีลักษณะเป็นสีทอง
ส่วนสูง: 195 ซม.
น้ำหนัก: 95 กก.
พลังระดับการต่อย: 7 ตัน เมื่อ Cross Horn กางออก จะมีพลัง 15 ตัน
พลังกระดับการเตะ: 15 ตัน
กระโดดสูง: 30 เมตร
ความเร็ว: 100เมตร5 วินาที
ระดับมองทางไกล: 10 กิโลเมตร
ระดับการได้ยิน: 10 กิโลเมตร

ท่าไม้ตาย : ไรเดอร์ คิ๊ก ไรเดอร์ เบรก
Kra-AgitoSF

สตอร์มฟอร์ม

สตอร์มฟอร์ม เป็นร่างที่ ของอากิโตะ ที่เกิดจากดราก้อนอายส์สีน้ำเงิน โดยทำให้แขนซ้ายของอากิโตะเปลี่ยนรูปร่าง สตอร์มฟอร์มจะเน้นการต่อสู้ด้วยความเร็วและใช้พลังสายลมเป็นหลัก
ส่วนสูง: 195 ซม.
น้ำหนัก: 95 กก.
พลังระดับการต่อย: 7 ตัน (ซ้าย) 3 ตัน (ขวา)
พลังกระดับการเตะ: 5 ตัน
กระโดดสูง: 50 เมตร
ความเร็ว: 100 เมตร, 4.5 วินาที
ระดับมองทางไกล: 10 กิโลเมตร
ระดับการได้ยิน: 10 กิโลเมตร
ท่าไม้ตาย : ฮัลเบิร์ด สปิน ฮัลเบิร์ด เบรก
Kra-AgitoFF

เฟรมฟอร์ม
เฟรมฟอร์ม เป็นร่างที่ 3 ของอากิโตะซึ่งเกิดจากดราก้อนอายส์สีแดง มีพลังในการใช้ดาบและมีพลังเพลิงเป็นหลัก

ส่วนสูง: 195 ซม.
น้ำหนัก: 95 กก.
พลังระดับการต่อย: 5 ตัน (ซ้าย) 10 ตัน (ขวา)
พลังกระดับการเตะ: 7 ตัน
กระโดดสูง: 20 เมตร
ความเร็ว: 100 เมตร, 5.5 วินาที
ระดับมองทางไกล: 30 กิโลเมตร
ระดับการได้ยิน: 30 กิโลเมตร
ท่าไม้ตาย : เซเบอร์ สแลช , เซเบอร์ เบรก , ดับเบิ้ล เซเบอร์ สแลช
Kra-AgitoTF

ทรีนิตี้ฟอร์ม

ทรีนิตี้ฟอร์ม เกิดจากการฟื้นความทรงจำของโชอิจิทำให้พลังทั้ง 3 ฟอร์มรวมเข้าด้วยกันและสามารถใช้อาวุธทั้งสองอย่างได้โดยร่างเดียว
ส่วนสูง: 195 ซม.
น้ำหนัก: 95 กก.
พลังระดับการต่อย: 7 ตัน (ซ้าย) 10 ตัน (ขวา)
พลังระดับการเตะ: 15 ตัน
กระโดดสูง: 50 เมตร
ความเร็ว: 100 เมตร, 4.5 วินาที
ระดับมองทางไกล: 30 กิโลเมตร
ระดับการได้ยิน: 30 กิโลเมตร
ท่าไม้ตาย : ไรเดอร์ ชู้ต , ไฟเออร์ สตอร์ม แอ็กแท็ค
KRAgitoBurning

เบิร์นนิ่งฟอร์ม
 เป็นร่างที่เกิดจากพลังแห่งความโกรธของโชอิจิทำให้อัลทอร์ริงแปรสภาพเป็นพลังเปลวเพลิงในช่วงแรกที่ใช้ร่างเบิร์นนิ่งฟอร์มนั้นทำให้ไม่สามารถควบคุมร่างกายตัวเองได้

ส่วนสูง: 195 ซม.
น้ำหนัก: 95 กก.
พลังระดับการต่อย: 25 ตัน
พลังกระดับการเตะ: 15 ตัน
กระโดดสูง: 15 เมตร
ความเร็ว: 100 เมตร, 6 วินาที
ระดับมองทางไกล: 30 กิโลเมตร
ระดับการได้ยิน: 30 กิโลเมตร
ท่าไม้ตาย : เบิร์นนิ่ง บอมเบอร์ , เบิร์นนิ่ง ไรเดอร์ พั๊นซ์
 KRAgitoShining

ไชน์นิ่งฟอร์ม
ไชน์นิ่งฟอร์ม เป็นร่างสุดยอดของอากิโตะซึ่งเกิดจากพลังงานแสงอาทิตย์ทำให้เกราะเบิร์นนิ่งฟอร์มแตกสลายเป็นเกราะสีเงินในเวลาต่อมามีพลังโจมตีสูงกว่าฟอร์มอื่นๆของอากิโตะ

ส่วนสูง: 195 ซม.
น้ำหนัก: 95 กก.
พลังระดับการต่อย: 25 ตัน
พลังกระดับการเตะ: 45 ตัน
กระโดดสูง: 75 เมตร
ความเร็ว: 100 เมตร, 4 วินาที
ระดับมองทางไกล: 35 กิโลเมตร
ระดับการได้ยิน: 35 กิโลเมตร
ท่าไม้ตาย : ไซน์นิ่ง แครช , ไซน์นิ่ง ไรเดอร์ คิ๊ก
Kamen Rider Ryuki-06

kamenrider ryuki

คาเมนไรเดอร์ ริวคิ  เป็นซีรีส์ภาพยนตร์ซีรีส์มาสค์ไรเดอร์ลำดับที่ 12 เริ่มออกอากาศทางทีวีอาซาฮี เมื่อ 3 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2002 ถึง 19 มกราคม ค.ศ. 2003 ออกอากาศทั้งหมด 50 ตอนมีภาพยนตร์ตอนพิเศษอีก 1 ตอนคือ Episode Final และมีตอนพิเศษจากโทรทัศน์ในชื่อ 13 RIDERS

เรื่องย่อ
คิโดะ ชินจิ ชายหนุ่มช่างภาพผู้ใสซื่อ เขาทำงานให้กับสำนักข่าว ORE Journal โดยในแต่ละวันเขามักจะทำงานล้มเหลวเนื่องด้วยอุปสรรคนานาประการจนกระทั่งวันหนึ่งเขาได้บังเอิญเก็บกล่องปริศนาขึ้นมาจากคดีบุคคลหายสาบสูญคดีหนึ่ง ทำให้ชีวิตของชินจิต้องเปลี่ยนไป และเขาได้พบกับ อาคิยามะ เรน ชายหนุ่มผู้จริงจังกับชีวิต กำลังต่อสู้กับสัตว์ประหลาด ในมิเรอร์ เวิลด์ โลกกระจกที่ทุกอย่างเหมือนกับโลกที่เขาอาศัยหากแต่เพียงตัวอักษรจะตรงกับข้ามและไม่มีมนุษย์คนใดอาศัยอยู่ โดยที่มีหญิงสาวนาม คันซากิ ยูอิ ผู้ที่สามารถมองเห็นการต่อสู้ในมิเรอร์ เวิลด์ คอยดูการต่อสู้ของพวกเขา ทำให้ทั้ง3ต้องเผชิญกับการต่อสู้ที่สุดแสนจะคาดเดา
ชินจิที่ได้ก้าวเข้าสู่วิถีแห่งมาสค์ไรเดอร์ ไม่อาจสามารถหันหลังกลับไปได้และเมื่อรู้ว่าการต่อสู้ในมิเรอร์ เวิลด์นั้นเป็นการต่อสู้แบบBattle royal โดยผู้ที่มีชีวิตรอดเพียงหนึ่งเดียวจะสามารถขอพรในสิ่งที่ตนเองหวังเอาไว้ ยิ่งทำให้ชินจิต้องเอาชนะจากการต่อสู้ครั้งนี้พร้อมกับคำขอของเขาที่ต้องการให้โลกมีแต่สันติสุข ความสงบสุข

ตัวละคร
KRDK-dragon knightมาสค์ไรเดอร์ ริวคิ / ริวคิ เซอร์ไวว์ / คิโดะ ชินจิ 
ชายหนุ่มผู้ใสซื่อ แปลงร่างเป็นริวคิโดยบังเอิญ เนื่องจากเขาเก็บกล่องเวนท์เด็คได้ด้วยความบังเอิญทำให้ชีวิตของเขาต้องเปลี่ยนไป โดยปกติ ชินจิทำงานให้กับ ORE Journal (สำนักข่าว รายงานทางสื่ออินเทอร์เน็ตและโทรศัพท์มือถือ) ทำงานเป็นนักข่าว คอยรายงานและหาข่าวแปลกๆ มานำเสนอแด่ผู้อ่าน บ่อยครั้งที่มักจะเจอเหตุการณ์จากโลกมิเรอร์เวิลด์ ทำให้เขาไม่สามารถหาข่าวไปนำเสนอและถูกตักเตือนอยู่บ่อยครั้ง
ชินจิ มีนิสัยที่ซื่อตรงและใจดีเกินเหตุ ทำให้เขาต้องตกเป็นเบี้ยล่างของเพื่อนร่วมงานและไม่ทันคนหลายครั้ง แต่ด้วยนิสัยที่ใจดี ซื่อตรง ทำให้ไม่มีใครโกรธเขาลงเลยสักครั้ง
ในตอนท้ายชินจิได้เข้าปกป้องเด็กจากมิเรอร์ มอนสเตอร์ขณะที่ไม่ได้แปลงร่างทำให้บาดเจ็บสาหัสและได้เข้าต่อสู้จนเสียชีวิตในที่สุด
แรงเหตูจุงใจ - ทำเพื่อปกป้องสันติสุขของโลก

ร่างสุดยอดของริวคิ(Survive!)KRDK-dragon knight survivemode

  • Height: 193cm
  • Weight: 95kg
  • Punching Power: 15t (AP: 300)
  • Kicking Power: 25t (AP: 500)
  • Maximum Jump Height: 45m
  • Maximum Running Speed: 80km/h
  • Sight and Hearing: 20km radius
Faiz

kamenrider faiz

มาสค์ไรเดอร์ไฟซ์ Kamen Raidā Faizu Masked Rider Φ's, คะเม็นไรดาไฟซุ ?) เป็นภาพยนตร์ชุดทางโทรทัศน์ลำดับที่ 13 ในซีรีส์มาสค์ไรเดอร์หรือไอ้มดแดง ซึ่งเกิดจากการร่วมงานระหว่างอิชิโนะโมะริโปรดักชันกับ โทเอ คาบูชิกิ ไคชา ออกอากาศครั้งแรกในประเทศญี่ปุ่นตั้งแต่วันที่ 26 มกราคม ค.ศ. 2003 ถึงวันที่ 18 มกราคม ค.ศ. 2004 ทางสถานีโทรทัศน์อาซาฮี รวมทั้งหมด 50 ตอนและมีภาพยนตร์อีก 1 ตอนคือ Paradise Lost ส่วนในประเทศไทยออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ไอทีวี เมื่อ พ.ศ. 2548-49 และได้ออกอากาศอีกครั้งทางช่องโมเดิร์นไนน์ทีวี ทุกวันจันทร์ถึงพฤหัสบดีเวลา16.30-17.00 ลิขสิทธิ์ ทีวี ซี่รี่ย์ เป็นของ บริษัท ดรีม เอกซ์เพรส เดกซ์ ส่วนลิขสิทธิ์ Paradise Lost เป็นของ โลโก้ ฟิล์ม ในปัจจุบันได้กลับมาออกอากศอีกครั้งทางช่อง การ์ตูนคลับแชแนล ในปี พ.ศ. 2555

เรื่องย่อ

ออร์เฟนอค คือ มนุษย์ที่มีการพัฒนาไปอีกขั้น ที่ถูกผ่าตัดโดย บริษัท Smart Brain แต่การทดลองได้ผิดพลาด เลยทำให้พวกมันมีความชั่วร้าย โดยพวกมันมีแผนที่จะทำลายล้างโลกนี้ และ เอาเข็มขัดไฟซ์ ไปครอบครองอีกด้วย โดยผู้ครอบครองเข็มขัด ไฟซ์ คือ โซโนดะ มาริ ลูกสาวของประธานบริษัท Smart Brain คนก่อน (ซึ่งเธออาจจะเกี่ยวข้องกับ การตายของนักเรียนในโรงเรียน ริวเซย์ อีกด้วย)โดยพ่อของเธอให้ เธอ ตามหา คนที่จะสวมเข็มขัดไฟซ์ อย่างแท้จริง โดยเธอ ได้พบกับ อินุอิ ทาคุมิ ชายหนุ่มพเนจร เพื่อตามหาความฝันของตนเอง เลย จะให้เขาเป็นผู้สวมเข็ดขัดไฟซ์ แต่ทาคุมิ กับ ปฏิเสธ แล้ว ณ เวลานั้น ออร์เฟนอค ได้ ปรากฏตัวต่อ ทั้ง 2 มาริเลยคิดจะสวมเข็มขัดไฟซ์ แต่ก็เกิดผิดพลาด เข็มขัดไม่สามารถมอบพลังให้เธอได้ ทาคุมิ รู้ตัวแล้วว่า ถ้าเขาไม่สวมเข็ดขัดไฟซ์ เขาจะไม่รอด ทาคุมิเลยตัดสินใจ สวมเข็ดขัดไฟซ์ พอทาคุมิสวมเข็ดขัดไฟซ์ แสงจากเข็มขัด ได้ ครอบคลุมร่างกาย ทาคุมิ เอาไว้ แล้ว ได้ เกิดเป็นร่างใหม่ คือ มาสค์ไรเดอร์ไฟซ์ ทาคุมิจัดการออร์เฟนอค ตัวแรกโดย พลังของเข็มขัดไฟซ์ และจะช่วยมาริ ปกป้องโลกนี้จากการทำลายของออร์เฟนอค อีกด้วย

ตัวละครหลัก

มาสค์ไรเดอร์ไฟซ์ / วูลฟ์ออร์เฟนอค / อินุอิ ทาคุมิ
ชายหนุ่มพเนจร ผู้ซึ่งพบกับมาริโดยบังเอิญ พบว่าตนมีความสามารถในการสวมเข็มขัดไฟซ์ จึงได้ต่อสู้ในฐานะไฟซ์เรื่อยมา แท้จริงแล้วเดิมเป็นวูลฟ์ออร์เฟน็อคที่ช่วยเหลือมาริโดยบังเอิญแต่มาริหมดสติไปทาคุมิได้กลายร่างเป็นวูลฟ์ออร์เฟนอคอีกครั้งจากการต่อสู้ครั้งก่อนจนทำให้มาริและเห็นแล้วรู้สึกจำได้และหวาดกลัวอีกครั้งจนทาคุมิหนีห่างจากมาริเพราะมาริเข้าใจผิดว่าออร์เฟนอคที่มาริฆ่านักเรียนไปก็คือทาคุมิแต่มาริก็เข้าใจว่าทาคุมิไม่ได้เป็นคนทำทาคุมิก็กลับมาต่อสู้ในฐานะเป็นมาสค์ไรเดอร์ ไฟซ์ อีกครั้ง ภายหลังจบจากการสู้กับราชันย์ออร์เฟนอคในครั้งสุดท้ายนั้น ทาคุมิก็ยังคิดที่จะใช้ชีวิตแบบออร์เฟนอคอยู่ร่วมกันกับมนุษย์ตามเดิม
มาสค์ไรเดอร์ไคสะ / คุซากะ มาซาโตะ 
นักเรียนในโรงเรียนสมาร์ทเบรนด์เก่งในด้านกีฬาและการเรียนเป็นเพื่อนสนิทของมาริแต่กลับแอบชอบมาริตั้งแต่ตอนเด็กเนื่องจากตอนเด็กๆมาริเป็นคนที่ช่วยเหลือคุซากะตั้งแต่เด็กๆคุซากะได้รับเลือกเป็นมาสค์ไรเดอร์ ไคสะ พอหลังจากได้เป็นมาสค์ไรเดอร์ ไคสะ ก็กลับกลายเป็นพันธมิตรที่ต้องกล้ำกลืนกับทาคุมิอยู่บ่อยๆ และคิดอยากปกป้องมาริจนไม่อยากให้ใครแตะด้วยซ้ำ เมื่อพ่อของคุซากะมาได้เล่าความจริงกับคุซากะว่าตัวเขาได้ตายจากงานฉลองโรงเรียนริวเซย์และได้ทำการทดลองให้มีชีวิตใหม่โดยได้รับถ่าย DNA ของออร์เฟนอคกลับมาอีกครั้งพร้อมทั้งเตือนว่าการแปลงร่างบ่อยเกินไปจะทำให้เข็มขัดไคสะกลับมาฆ่าผู้ใช้อีกครั้งและบอกให้คุซากะเลิกล้มการต่อสู้และมีชีวิตต่อไปแต่คุซากะไม่คิดที่จะเชื่อพ่อจนพ่อของคุซากะสลายไปและสุดท้ายก็ต้องมาจบชีวิตลงด้วยฝีมือคิบะ ยูจิหลังจากใช้เข็มขัดครั้งสุดท้าย
มาสค์ไรเดอร์เดลต้า / มิฮาระ ชูจิ 
นักเรียนในโรงเรียนริวเซย์เช่นเดียวกับคุซากะ และ มาริ ชายหนุ่มผู้ที่หวาดกลัว พูดน้อย เงียบขรึม คุซากะชวนให้มิฮาระเป็นมาสค์ไรเดอร์ เดลต้าแต่ตอนแรกเขาก็ปฏิเสธและต่อมาเขาก็เริ่มที่จะสู้กับออลเฟนอคมิฮาระก็เลยตัดสินใจที่จะสู้และได้เป็นมาสค์ไรเดอร์ เดลต้า จนได้ และเขาก็ได้เปลี่ยนนิสัยกลายเป็นนิสัยมีความมั่นใจในตัวเอง และ กล้าเผชิญหน้าปัญหาต่างๆ ไปในที่สุด มิฮาระเดิมได้ตายไปแล้วเช่นเดียวกันกับคุซากะ และมาริในงานฉลองโรงเรียนสมาร์ทเบรนด์และได้ทำการทดลองให้มีชีวิตใหม่กลับมาอีกครั้งเช่นเดียวกันกับคุซากะ และมาริ เช่นเดียวกัน ภายหลังจากปราบราชาออร์เฟนอคในศึกครั้งสุดท้ายสำเร็จจนได้นั้น มิฮาระก็ได้เป็นพี่เลี้ยงเด็กในสถานรับเลี้ยงแห่งหนึ่ง
มาสค์ไรเดอร์ออร์ก้า / มาสค์ไรเดอร์ไคสะ / ฮอรส์ออร์เฟนอค /คิบะ ยูจิ  ชายหนุ่มอายุ 25 ปีในตอนแรกยูจิยังคงสภาพเป็นเจ้าชายนิททาเนื่องจากอุบัติเหตุทางรถยนต์และเสียชีวิตต่อมาได้คืนชีพและกลายเป็นออร์เฟนอคแต่ทว่าชีวิตที่อยู่ดีกินดีของยูจิได้หายไปทั้งพ่อแม่เสียชีวิตบ้านถูกยึดและคนรักได้ไปคบหาแฟนใหม่ทำให้คิดจะฆ่าตัวตายแต่ไม่สำเร็จทำให้ยูจิสิ้นหวังไปต่อมาได้เป็นผู้นำของกลุ่มออลเฟนอคฝ่ายดีในเวลาต่อมา คิบะ ยูจิได้ถูกเลือกจากพ่อของคุซากะให้เป็นประธานกลุ่มบริษัทสมาร์ทเบรนคนใหม่แทนและชักชวนพวกทาคุมิให้ร่วมมือจัดการกับราชันย์ออร์เฟน็อคแต่คุซากะกลับไม่ยอมร่วมมือและต่อมาคิบะ ยูจิ เป็นคนสังหารคุซากะเองเนื่องจากคุซากะไม่ยอมให้ความร่วมมือเอง คิบะ ยูจิเสียชีวิตเนื่องจากยอมสละชีวิตตนเองในการต่อสู้ครั้งสุดท้ายกับราชันย์ออร์เฟนอค ก่อนที่เขาจะเสียชีวิตเขาก็ได้เข้าใจว่าสิ่งที่พวกทาคุมิทำไปนั้นก็คือการปกป้องโลกและปกป้องอนาคตซึ่งตัวคิบะเองก็ได้รู้อย่างแท้จริงก่อนที่ร่างเขาจะสูญสลายลงไปในที่สุด
มาสค์ไรเดอร์ไซก้า / วาซาตากิ เลโอ
เลโอ ชายหนุ่มผู้ที่ถูกคัดเลือก จากบริษัท Smart brain ให้เป็น มาสค์ไรเดอร์ ไซก้า มีหน้าที่กำจัดออร์เฟนอคที่ทรยศและกำจัดพวกกลุ่มกองกำลังพิทักษ์มนุษย์ขึ้นมา พูดจาเป็นภาษาอังกฤษ ภายหลังถูกมาสค์ไรเดอร์ไฟซ์จัดการลงไปในที่สุด
ไรออททรูเปอร์ /สเน็คออร์เฟนอค' /' ไคโด นาโอยะ
ชายหนุ่มที่มีความฝันเป็นนักดนตรีชอบเล่นกีตาร์เป็นอย่างมากแต่ว่าความฝันของไคโดต้องจบลงเพราะมือที่สำคัญในการเล่นได้สูญเสียความสามารถแต่เหตุที่เป็นออร์เฟนอคนั้นเนื่องจากถูกสควิดออร์เฟนอคโจมตีและถูกเชื้อออร์เฟนอคไปมีนิสัยเจ้าชู้และแอบชอบมาริในขณะเดียวกันไคโดก็แอบชอบยูกะอยู่ด้วยภายหลังจากจบการต่อสู้ครั้งสุดท้ายไคโดก็ยังเป็นพี่เลี้ยงเด็กในสถานรับเลี้ยงเด็กแห่งหนึ่งเช่นเดียวกันกับมิฮาระ ชูอิจิและไคโดก็ยังเป็นชายหนุ่มผู้ที่ร่อนเร่พเนจรไปตามเคย
เครนออร์เฟนอค / โอซาดะ ยูกะ 
หญิงสาวที่มีปัญหาทางครอบครัวและถูกเกลียดชังทั้งโรงเรียนโดนทำร้ายกลั่นแกล้งสารพัดจนทำให้ยูกะตกล้มบันไดเสียชีวิตและถูกคืนชีพขึ้นมาเป็นออร์เฟนอคประเภทออริจินอลแบบเดียวกับยูจิและฆ่าคนที่กลั่นแกล้งทั้งนักเรียนและครอบครัวทั้งหมดและได้อยู่อาศัยตึกเช่าของยูจิ ยูกะแอบชอบไคโดแต่ไม่กล้าบอกและก็ยอมคอยให้กำลังใจแบบห่างๆไป แต่เมื่อรู้ว่าไคโดแอบชอบมาริ ยูกะเลยเสียใจแต่คอยให้ความช่วยเหลือและให้กำลังใจไคโดเพื่อที่จะให้ไคโดจีบมาริได้สำเร็จ แต่เคทาโร่ก็แอบชอบยูกะมาโดยตลอดยูกะก็ยอมคบกับเคทาโร่ในที่สุดซึ่งเคทาโร่ก็คอยให้กำลังใจและชอบยูกะมาโดยตลอด
โซโนดะ มาริ 
ลูกสาวของอาจารย์โรงเรียนริวเซย์และเป็นพนักงานในร้านซักอบรีดอีก เดิมมาริเคยตายหลังจากถูกนักเรียนในโรงเรียนริวเซย์แปลงพันธุ์ให้กลายเป็นออร์แฟนอคเข่นฆ่านักเรียนในโรงเรียนกันหมดในงานฉลองปาร์ตี้ในโรงเรียนกัน ก่อนที่เธอตายเธอเห็นวูลฟ์ออร์แฟนอคมาช่วยเหลือเธอแต่เธอกลับเข้าใจผิดคิดว่าจะมาฆ่าเธอแต่เธอตายไปก่อน หลังจากที่ทางสมาร์ทเบรนได้มีการรักษาคนตายให้ฟื้นขึ้น มาริ, คุซากะ, มิฮาระ และรวมกันทั้งนักเรียนก็ได้ฟื้นขึ้นมาใช้ชีวิตตามเคย มาริเป็นคนให้เข็มขัดไฟซ์มอบให้กับทาคุมิในตอนแรกที่มาริเจอออร์เฟนอคขึ้นมา จนทำให้ทาคุมิได้แปลงร่างเป็น มาสค์ไรเดอร์ ไฟซ์ ในครั้งแรกและจัดการกับออร์แฟนอคต่อมา มาริจึงชวนทาคุมิเข้ามาอยู่ในร้านซักรีด และเป็นพนักงานซักรีดควบคู่ไปกับจัดการกับออร์แฟนอคไปด้วยกัน จนต่อมามาริได้เห็นทาคุมิแปลงร่างเป็นวูลฟ์ออร์เฟนอคอยู่นั้นมาริเลยนึกถึงภาพในอดีตจนหวาดกลัวทำให้ทาคุมิเองไม่สามารถทนอยู่ต่อไปได้เลยหนีไป จนวันหนึ่งมาริเริ่มจำได้และเข้าใจแล้วว่าทาคุมิไม่ได้เป็นคนฆ่าแถมยังมาช่วยเหลือมาริในอดีต มาริจึงขอร้องให้ทาคุมิกลับมาและสู้ในฐานะ มาสค์ไรเดอร์ ไฟซ์ อีก ภายหลังจบจากการต่อสู้ครั้งสุดท้ายนั้นมาริก็ได้คิดว่าอยากจะปกป้องอนาคตและอยากจะทำในสิ่งที่เธอเองในอนาคตจนเธอก็ได้เริ่มทำในตั้งแต่นั้นต่อมา
คิคุจิ เคทาโร่ 
ชายหนุ่มพนักงานร้านซักรีดเป็นเพื่อนสนิทและยังเป็นลูกน้องของทาคุมิ ชายหนุ่มผู้มองโลกในแง่ดี ซื่อและติ๊งต๊อง บางทีก็ตรงไปตรงมา ทาคุมิได้เผยร่างออร์แฟน็อคขึ้นมาต่อหน้าทั้งมาริ,คุซากะ,คิบะ และเคทาโร่อยู่นั้น เคทาโร่เริ่มกลัวและตะลึงอยู่จนต่อมาเคทาโร่เข้าใจว่าทาคุมิจะมนุษย์หรือออร์แฟนอค และเป็นออร์แฟนอคที่ไม่เคยทำร้ายใครนั้น เคทาโร่ก็ยังที่จะเป็นเพื่อนกับทาคุมิอยู่ดี เคทาโร่ได้แอบชอบยูกะตลอดเรื่อยมาจนยูกะเริ่มมีใจให้ หลังจากที่ยูกะเผยร่างออร์แฟนอคต่อหน้าเคทาโร่นั้น แต่เคทาโร่กลับเชื่อมั่นในความรักของยูกะต่อมา ต่อมาเคทาโร่ได้รู้ว่ายูกะเสียชีวิตหลังจากที่เธอได้ส่งข้อความทางมือถือไปหาเคทาโร่ครั้งสุดท้ายนั้น เคทาโร่เสียใจเป็นอย่างมากจนต่อมาเคทาโร่ก็เริ่มกลับมาใช้ชีวิตใหม่ตามเดิมต่อมา ภายหลังจบจากการต่อสู้ครั้งสุดท้าย เคทาโร่ก็ได้คิดที่จะใช้ชีวิตเดิมตามเคยและจะอยู่จนกว่าตนเองนั้นไปจนตาย

ตัวละครอื่นๆ

อาเบะ รินะ 
เพื่อนสนิทและแฟนของมิฮาระ เดิมเป็นนักเรียนในโรงเรียนริวเซย์เช่นกันกับมิฮาระ,มาริ และคุซากะอีก เธอขอร้องให้มิฮาระแปลงร่างมาสค์ไรเดอร์ เดลต้า แต่มิฮาระกลับไม่ยอมได้แต่หวาดกลัวว่าตนเองจะเป็นเหยื่อของเข็มขัดเดลต้าอีกจนกระทั่งรินะแปลงร่างเข้าไปสู้แต่กลับแปลงร่างไม่ได้ จนต่อมารินะประสบอุบัติเหตุถูกรถชนนั้น มิฮาระเริ่มที่เข้าใจแล้วว่าตนอยากจะสู้เพื่อรินะ และสู้เท่าที่จะทำได้ จนมิฮาระได้สู้ฐานะ มาสค์ไรเดอร์ เดลต้า อย่างเต็มตัว ภายหลังจากที่รินะหายจากการถูกรถชนแถมรู้ว่ามิฮาระได้เป็น มาสค์ไรเดอร์ เดลต้า แล้วรินะก็คอยให้กำลังใจมิฮาระอยู่เรื่อยมา ภายหลังจบจากการต่อสู้ครั้งสุดท้ายกับราชันย์ออร์เฟนอคนั้นรินะไปเป็นพี่เลี้ยงเด็กเช่นเดียวกันกับมิฮาระ และไคโด ในต่อมา
โกทออร์เฟนอค / อดีตประธาน ฮานางาตะ
อดีตประธานบริษัทสมาร์ทเบรนเป็นผู้เลี้ยงอุปการะของเหล่านักเรียนโรงเรียนริวเซย์ และเป็นพ่อของคุซากะ และเป็นผู้ชักชวนคิบะ ยูจิ เป็นประธานสมาร์ทเบรทคนใหม่แทนมุราคามิ เคียวจิ ฮานางาตะมีทัศนคติอยากให้ออร์เฟนอคอยู่ร่วมกันกับมนุษย์ แต่คุซากะกลับคัดค้านในความคิดของผู้เป็นพ่อของเขา ภายหลังที่ฮานางาตะเสียชีวิตนั้นตนได้บอกกล่าวคุซากะและเตือนไม่ให้คุซากะแปลงร่างเป็น มาสค์ไรเดอร์ ไคสะ เพราะอาจจะทำให้เกินขีดจำกัดในตัวของคุซากะจนทำให้เสียชีวิตได้
ฮานางาตะเสียชีวิตเนื่องจากร่างกายของตนได้สูญสลายไปต่อหน้าคุซากะ

บริษัทสมาร์ทเบรน

โรสออร์เฟนอค / มุราคามิ เคียวจิ
ประธานบริษัทสมาร์ทเบรนมีหน้าที่นำออร์เฟนอคก่อความวุ่นวายและไล่เข่นฆ่ามนุษย์ไปยามว่างมุราคามิก็ไปที่บาร์ของล็อบเตอร์ออร์เฟนอคเพื่อไปวางแผนและประชุมงานต่างๆของเหล่าออร์เฟนอคและจะควบคู่ไปกับการดื่มไวน์และฟังเพลงไปด้วยกัน ภายหลังจากการคืนชีพของราชันย์ออร์เฟนอคพร้อมกับพลังที่ไม่เพียงพออีก ต่อมามุราคามิเสียชีวิตด้วยการถูกราชันย์ออร์เฟนอคที่ปรากฏมาแล้วดูดพลังจากร่างมุราคามิจึงแหลกสลายเป็นผุยผงไปในที่สุด
สมาร์ทเลดี้
เลขาของประธานบริษัทสมารท์เบรนเธอคอยรับใช้ไม่ว่าใครจะเป็นประธานก็ตามและมีหน้าที่คอยจัดแจงตารางงานให้กับประธานและคอยสั่งกำจัดออร์เฟนอคที่คิดทรยศไม่ว่าจะเป็นใครก็ตามและภายหลังจบจากศึกราชันย์ออร์เฟนอคแล้วสมาร์ทเลดี้ก็ยังเป็นรองประธานในบริษัทสมาร์ทเบรนตามเคย
ไรออททรูปเปอร์
ระบบมาสค์ไรเดอร์ชนิดผลิตจำนวนมากที่บริษัทสมาร์ทเบรนสร้างขึ้นมาเป็นกำลังทหารเพื่อปราบมาสค์ไรเดอร์และออร์เฟน๊อคที่ทรยศ ชุดเกราะมีพลังต่อสู้ไม่สูงนัก พลังของไรออททรูเปอร์จึงขึ้นอยู่กับออร์เฟนอคที่สวมใส่

ร่างต่างๆของFAIZ


555051 resizeAxel Form


555052 resizeBlaster Form

Blade-BladeAce

kamenrider blade

มาสค์ไรเดอร์เบลด   เป็นภาพยนตร์ซีรีส์มาสค์ไรเดอร์ลำดับ 14 และเป็นเรื่องที่ 2 ที่ใช้การ์ดเป็นหลัก เริ่มออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ทีวีอาซาฮีในช่วงซูเปอร์ฮีโรไทม์เมื่อวันที่ 25 มกราคม ค.ศ. 2004 ถึง 23 มกราคม ค.ศ. 2005 ออกอากาศทั้งหมด 49 ตอนและมีภาพยนตร์อีก 1 ตอนคือ The Missing Ace
ในประเทศไทยลิขสิทธิ์ในการจัดจำหน่ายในรูปแบบวีซีดีและดีวีดีเป็นของบริษัท ดรีม เอกซ์เพลส (เดกช์) จำกัดและ ได้ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ไอทีวี (ทีไอทีวีในปัจจุบันต่อมาก็คือไทยพีบีเอส) โดยออกอากาศทุกวันเสาร์เวลา 8.00-8.30 ต่อมาเพิ่มออกอากาศทุกวันอาทิตย์จนจบ และปัจจุบันออกอากาศอีกครั้งทางโมเดิร์นไนน์ ทุกวันพุธเวลา 16.30-17.00 ส่วนภาคโรงภาพยนตร์เป็นของบริษัท เมย์เซเว่นมีเดีย จำกัด


  • มาสค์ไรเดอร์เบลดเป็นไรเดอร์ที่เกี่ยวข้องกับไพ่เช่นเดียวกับริวคิแต่เบลดจะใช้ไพ่สี่ดอกที่ใช้กันในชีวิตจริง


เนื้อเรื่อง
ในโลกของเรามีสิ่งมีชีวิตอมตะที่เรียกว่า อันเดด อยู่ 53 ตน เมื่อ 10,000 ปีก่อน อันเดดทั้ง 53 ตนได้ต่อสู้กันเพื่อหาสิทธิ์การเป็นเผ่าพันธุ์ที่ปกครองโลกนี้ โดยผู้แพ้จะถูกผนึกศิลาผนึกไว้เป็นการ์ด ในท้ายที่สุดฮิวแมนอันเดดหรือมนุษย์ ก็เป็นผู้ชนะในศึกครั้งนั้นและทำให้เผ่าพันธุ์มนุษย์เป็นผู้ถือสิทธิ์ครองโลกนี้
10,000 ปีต่อมาจนถึงปัจจุบันองค์กรB.O.A.R.D.ซึ่งได้ทำการวิจัยเกี่ยวกับเรื่องของอันเดด วันหนึ่งฮิโรเสะ โยชิโตะ ผู้ได้สูญเสียภรรยาไปได้ทำการปลดผนึกอันเดดเกือบทั้งหมด เพิ่อศึกษาหาความลับของชีวิตอมตะ ทางB.O.A.R.D.จึงได้ทำการสร้างระบบไรเดอร์ซิสเต็มขึ้น เพื่อใช้พลังของอันเดดในการผนึกเหล่าอันเดดลงในการ์ดอีกครั้ง

ตัวละคร

เหล่าไรเดอร์

มาสค์ไรเดอร์เบลด / เคนซากิ คาซุมะ
เด็กหนุ่มกำพร้าพ่อ-แม่ เข้าร่วมเป็นสมาชิกองค์กร B.O.A.R.D.เพื่อที่จะเป็นไรเดอร์ เขาเป็นมนุษย์ที่มีความสามารถสูงมาก และเป็นมนุษย์เพียงคนเดียวที่สามารถรวมพลังอันเดดทั้ง 13 ตนได้และกลายร่างเป็นคิงฟอร์มได้ เป็นคนมุ่งทะเยอทะยานสูงมาก จากการต่อสู้ครั้งสุดท้ายในครั้งเคนซากิได้ช่วยชีวิตฮาจิเมะด้วยการทำให้ตนกลายเป็นอันเดดและตนได้หายสาบสูญไปในที่สุด
มาสค์ไรเดอร์การ์เรน / ทาจิบานะ ซาคุยะ
รุ่นพี่ของเคนซากิ มีนิสัยเฉยชา เป็นรุ่นพี่ของเคนซากิ และเป็นสมาชิกองค์กร B.O.A.R.D.หน้าที่ของทาจิบานะคือการกำจัดอันเดด หลังจากจบในการต่อสู้ครั้งสุดท้ายนั้นทาจิบานะก็ได้ใช้ชีวิตประจำวันตามแบบของตนไป
มาสค์ไรเดอร์คาลิซ / โจ๊กเกอร์ / ไอคาวะ ฮาจิเมะ
ชายหนุ่มปริศนาที่ปรากฏตัวมาอาศัยอยู่ในร้านกาแฟของครอบครัวคุริฮาระ มีร่างที่แท้จริงคือ โจ๊กเกอร์ อันเดดที่ไม่ได้สังกัดเผ่าพันธุ์ใดที่สามารถยืมรูปลักษณ์และความสามารถของอันเดดตนอื่นๆมาเป็นของตนเองได้ เมื่อ 2 ปีก่อนหลังจากหลุดจากผนึก ได้ทำการผนึกฮิวแมนอันเดดและนำรูปลักษณ์ของมนุษย์มาใช้เป็นของตนเอง ในการต่อสู้ครั้งสุดท้ายนั้นฮาจิเมะสู้กับเคนซากิและเคนซากิยอมสละชีวิตไปและหายสาบสูญไปและต่อมาฮาจิเมะก็ได้ใช้ชีวิตกับครอบครัวคุริฮาระในร้านกาแฟตามเดิม
มาสค์ไรเดอร์เรนเกล / คามิโจ มุสึกิ 
เด็กหนุ่มอายุ 17 ผู้ถูกเลือกจากสไปเดอร์อันเดด ตลอดเรื่องหลังจากได้กลายมาเป็นมาสค์ไรเดอร์เขาได้ถูกพลังความชั่วร้ายของสไปเดอร์อันเดดครอบงำ แต่ท้ายที่สุดก็หลุดจากผนึกได้ด้วยการรวมพลังของมุสึกิและไทเกอร์อันเดดกับทารันทูล่าอันเดด ต่อมามุสึกิก็ได้ใช้ชีวิตแบบใหม่ขึ้นมา ภายหลังจบจากการต่อสู้ครั้งสุดท้ายนั้น มุสึกิก็ได้ใช้ชีวิตประจำวันตามปกติ
มาสค์ไรเดอร์ เกรฟ / คาชิมุระ จุนอิจิ
ร่างจริงของ"อัลบีโนโจ๊กเกอร์"หลอกใช้พวกทาจิบานะและเหล่าไรเดอร์ในการรวบรวมการ์ดคิงทั้ง4ใบเพื่อให้ได้พลังจากอดีต ปรากฏตัวในภาค Missing Ace อัลบีโนโจ๊กเกอร์ถูกมาสค์ไรเดอร์ เบลด ในร่างคิงฟอร์มจัดการไปในที่สุด
มาสค์ไรเดอร์ แลนซ์ / มุงาคิ ชิน
ชายหนุ่มปากเก่ง และเป็น1ใน3รุ่นน้องของเคนซากิ ไม่คอยให้ความเคารพกับเคนซากิและรุ่นพี่คนอื่นยกเว้นทาจิบานะ มุงาคิ ถูกจุนอิจิในร่างอัลบีโนโจ๊กเกอร์สังหารไป
มาสค์ไรเดอร์ ลาค / มิวะ นัทซึมิ
หญิงสาวผู้ห้าว แต่แอบชอบจุนอิจิ และเป็น1ใน3รุ่นน้องของเคนซากิ ไม่คอยให้เคารพกับเคนซากิและรุ่นพี่คนอื่นยกเว้นทาจิบานะ นัทซึมิ ถูกจุนอิจิปลอมตัวเป็นร่างทาจิบานะผลัดตกลงมาจากตึกเสียชีวิต

ตัวละครอื่นๆ

ฮิโรเสะ ชิโอริ 
อดีตสมาชิกคนหนึ่งของ B.O.A.R.D. เป็นผู้คอยช่วยเหลือพวกเคนซากิในการบอกตำแหน่งของอันเดด เป็นคนเข้มแข็ง และมู้ดดี้เล็กน้อย
ชิราอิ โคทาโร่ 
นักเขียนอิสระ คอยช่วยเหลือเคนซากิทุกเรื่อง เป็นคนอารมณ์ดี และชอบดื่มนมเอามากๆ
คุริฮาระ อามาเนะ 
หลานสาวของโคทาโร่ แต่ไม่ค่อยถูกกันเท่าไหร่ หลงรักไอคาว่า ฮาจิเมะหรือโจ๊กเกอร์
คุริฮาระ ฮารุกะ 
แม่ของอามาเนะและเป็นพี่ของโคทาโร่
อิจิโนเสะ จิน 
นักดนตรีข้างถนน มีความใฝ่ฝันที่จะเล่นดนตรีบนเรือของตน แต่จริงๆแล้วเขามีฐานะร่ำรวย
ยามานาคะ โนโซมิ 
แฟนของมุสึกิ หลังรู้ว่ามุสึกิเกี่ยวพันกับเรื่องประหลาด เธอได้พยายามเตือนมุสึกิเพื่อคืนสติกลับมา
ฟุกาซาว่า โซโยโกะ 
คนรักของทาจิบาน่าเป็นคนที่คอยช่วยเหลือทาจิบาน่าในทุกเรื่อง โดน พีค็อคอันเดดฆ่า
มิคามิ เรียว 
คามิโอกะ เรย์ 

B.O.A.R.D.

เทนโนจิ ฮิโรชิ 
เคอิ คาราสุมะ 
ผู้อำนวยการของบอร์ดและเป็นผู้สร้างrider systemทั้งสามขึ้นมาโดยใช้โจ๊กเกอร์เป็นต้นแบบ
ไทรอัล B / ฮิโรเสะ โยชิโตะ 

    ไรเดอร์เบลดร่างต่างๆ

    ร่างแปลงของเคนซากิซึ่งได้รับพลังจาก A เชนจ์ บีเทิ่ล
    ข้อมูล
    • สูง = 201 ซม.
    • หนัก = 111 กก.
    • พลังหมัด = 2.8 ตัน
    • พลังเตะ = 5.5 ตัน
    • พลังกระโดด = 133 เมตร
    • ความเร็วในการวิ่ง = 100 เมตร / 4.6 วินาที
    Blade-BladeJack

    แจ็คฟอร์ม

    ร่างที่ไรเดอร์เบลดซึ่งได้รับพลังจาก J ฟิวชั่น อีเกิ้ลและ Q แอบฟ์ซอฟบ์ แคปริคอร์น โดยร่างนี้สามารถบินได้และมีพลังที่มากกว่าร่างหลัก
    ข้อมูล
    • สูง = 201 ซม.
    • หนัก = 111 กก.
    • พลังหมัด = 3.5 ตัน
    • พลังเตะ = 5.5 ตัน
    • พลังกระโดด = 133 เมตร
    • ความเร็วในการวิ่ง = 100 เมตร / 4.6 วินาที

    Blade-BladeKingคิงฟอร์ม

    คิงฟอร์ม

    ร่างทสุดยอดไรเดอร์เบลดซึ่งได้รับพลังจาก K อีโวลูชั่น คอเคชัส และ Q แอบฟ์ซอฟบ์ แคปริคอร์น โดยร่างนี้เป็นการรวมร่างของอันเดดทั้ง 13 ตัวไปในร่างของเคนซากิมีพลังสูงสุดและสามารถใช้โกลด์เราซ์การ์ดได้แต่ว่าร่างนี้มีผลทำให้กลายเป็นโจ๊กเกอร์
    ข้อมูล
    • สูง = 201 ซม.
    • หนัก = 131 กก.
    • พลังหมัด = 4.5 ตัน
    • พลังเตะ = 7.0 ตัน
    • พลังกระโดด = 25" ไมล์
    • ความเร็วในการวิ่ง = 100 เมตร / 6.6 วินาที
    Kamen Rider Hibiki

    kamenrider hibiki

    มาสค์ไรเดอร์ฮิบิกิ เป็นภาพยนตร์ซีรีส์มาสค์ไรเดอร์ลำดับที่ 15 ออกอากาศเมื่อวันที่ 30 มกราคม ค.ศ. 2005 ถึงวันที่ 22 มกราคม ค.ศ. 2006 ออกอากาศทั้งหมด 48 ตอน และตอนพิเศษทางภาพยนตร์อีก 1 ตอนคือ มาสค์ไรเดอร์ฮิบิกิกับสงคราม 7 ไรเดอร์อสูร

    ในประเทศไทย มาสค์ไรเดอร์ฮิบิกิ ได้ลิขสิทธิ์จัดจำหน่ายรูปแบบวีซีดีและดีวีดีของบริษัทดรีมเอ็กซ์เพรส จำกัด (เดกซ์) และเคยออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ทีไอทีวี ทุกวันอาทิตย์เวลา 8.00-8.30 น. ในปี 2551 ได้ย้ายมาออกอากาศทางโมเดิร์นไนน์ ทีวี ทุกวันอาทิตย์ เวลา 10.05-10.25 น. ตั้งแต่เดือนมกราคม พ.ศ. 2551 จนถึงวันที่ 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2551 ได้ย้ายเวลาการออกอากาศมาเป็น วันอาทิตย์ เวลา 07.30 น. ในปัจจุบันออกอากาศที่ ช่องการ์ตูนคลับแชนแนล

เนื้อเรื่อง



ตำนานของเหล่าอสูร


เรื่องราวของเหล่าผู้ฝึกตนในวิถีของอสูรหรือที่คนในยุคปัจจุบันมักจะรู้จักกันในชื่อของไรเดอร์ ทั้งที่มีตัวตนอยู่จริงแต่กลับมีน้อยคนนักที่จะได้เห็นตัวจริงโดยมีจุดเริ่มต้นมาตั้งแต่ในสมัยอดีตกาลที่มนุษย์ยังคงโง่เขลาและวาดกลัวต่อปิศาจหรือที่เรียกกันว่ามากาโม่จึงจำเป็นที่จะต้องนำหญิงสาวมาเป็นเครื่องสังเวยแก่โอโรจิ (อสูรกายขนาดยักษ์รูปร่างหน้าตาคล้ายมังกรจีนหน้าตาดุร้าย ว่ายน้ำได้รวดเร็วสามารถลอยตัวบินอยู่กลางอากาศนอกจากนี้ยังพ่นไฟออกมาจากปากได้) โดยในการสังเวยนั้นจะต้องเป็นหญิงสาวที่ปิศาจได้ตีตราสัญลักษณ์ไว้ที่กลางฝ่ามือหากถึงเวลาที่กำหนดแล้วยังไม่ส่งตัวหญิงสาวคนนั้นมาเป็นเครื่องสังเวยเจ้าหล่อนก็จะเจ็บป่วยล้มตายไปในที่สุดด้วยระยะเวลาอันสั้น ส่วนการสังเวยในสมัยโบราณก็เพื่อเป็นการแสดงถึงความเคารพและการสยบต่อปิศาจ หากปิศาจพอใจก็จะไม่มารพกวนมนุษย์นั่นเอง นักรบอสูรเดิมทีก็เป็นเพียงแค่คนธรรมดาที่ฝึกตน และดำเนินชีวิตไปในวิถีของอสูรเท่านั้น จนกระทั่งมีผู้ที่สามารถบรรลุเปลี่ยนแปลงรูปร่างของตนเองไปเป็นนักรบอสูรอย่างเต็มตัวด้วยวิชาการรวมสมาธิและจิตแปลงร่างโดยใช้เสียงเป็นตัวกำหนดจิตปล่อยพลังอสูร (ชึ่งต่อมาเข้าใจว่าเพื่อที่จะพกพาง่ายจึงใช้เป็นส้อมเสียงเป็นตัวกำเนิดเสียงก่อนที่จะพัฒนาไปตามรูปแบบการใช้วิชาของนักรบอสูรแขนงต่าง ๆ เช่นนักรบอสูรสายเครื่องดีดก็จะใช้สายรัดข้อมือที่ด้านในมีสายให้ดีดหรือสายเครื่องเป่าก็จะมีการใช้นกหวีดแทน) ทำให้นักรบอสูรเหล่านี้หันมาต่อสู้กับมาคาโม่เพื่อช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน แต่กระนั้นเหล่ามนุษย์ผู้โง่เขลาก็ยังคงหวาดกลัวและไม่ไว้ใจเหล่านักรบอสูรอยู่ดี มีตำนานเล่ากันต่อมาว่าบางครั้งที่นักรบอสูรไปปราบปิศาจสำเร็จจนได้รับของกำนัลซึ่งก็เป็นเพียงแค่หัวมันธรรมดานักรบอสูรได้บังเอิญหันไปสบตากับเด็กน้อยที่กำลังจ้องมองหัวมันนั้นด้วยตาเป็นประกายนักรบอสูรจึงคิดที่จะแบ่งให้ขณะที่เด็กกำลังเอื้อมมือรับนั่นเองแม่เด็กกลับร้องห้ามไม่ให้รับพร้อมบอกว่าของนั้นอสูรจับไปแล้ว ในสมัยอดีตเหล่านักรบอสูรปราบโอโรจิลงได้ก็จริงแต่ต่อมาก็มีการปรากฏตัวของป่าโคดามะ (ป่าอาถรรพ์ที่มีต้นไม้ต้นเดียวเป็นตัวกลางหากกำจัดต้นไม้ต้นนี้สำเร็จป่าโคดามะก็จะหายไปแต่น้อยคนนักที่จะหาพบ) ป่าที่เคลื่อนที่ได้ราวกับสิ่งมีชีวิตและจากนั้นไม่นานโอโรจิก็จะปรากฏตัวอีก เป็นเช่นนี้อยู่หลายครั้งจนเข้าใจว่าการปรากฏตัวของป่าคือสัญญาณบอกเหตุการมาของโอโรจิ จากนั้นนักรบอสูรจึงเสาะแสวงหาที่ที่เหมาะสมทำพิธีชำระผืนปฐพีด้วยวิชาการตีกลองส่งคลื่นเสียงชำระลงสู่ปฐพีโดยตรงโดยว่ากันว่าการประกอบพิธีจะต้องทำด้วยนักรบอสูรเพียงคนเดียวและในระหว่าทำพิธีจะมีโอโรจิจำนวนมากเข้ามาทำลายพิธีอีกซึ่งเป็นไปได้ว่ามักไม่ค่อยมีนักรบอสูรคนไหนรอดแต่สุดท้ายก็มีผู้ทำสำเร็จสามารถผนึกโอโรจิไม่ให้ออกมาสร้างความวุ่นวายได้อีกส่วนสถานที่ประกอบพิธีนั้นเมื่อนานเข้าผู้คนก็หลงลืมสถานที่ที่แน่นอนไปตามกาลเวลา ในสมัยโบราณมีการตั้งกลุ่มขึ้นโดยใช้ชื่อว่า ทาเคชิ สาเหตุที่ใช้ชื่อนี้ก็เกิดขึ้นจากชายชื่อทาเคชิที่เป็นผู้ผึกตนในวิถีนักรบอสูรแต่ต้องเสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุระหว่างฝึกตน จนทำให้นักรบอสูรผู้เป็นอาจารย์ประกาศยุติบทบาทการเป็นนักรบอสูรของตนซึ่งนั่นก็ทำให้โอซึมุน้องชายของทาเคชิเกิดความเข้าใจผิดคิดว่าเขาเป็นคนฆ่าทาเคชิ จากนั้นไม่นานก็เกิดสัญลักษณ์เครื่องสังเวยที่ผ่ามือของคู่หมั้นของโอซามุทำให้ต้องหาวิธีปราบโอโรจิก่อนที่จะถึงวันที่ประกอบพิธีสังเวยด้วยการรวบรวมเหล่านักรบอสูรเพื่อมาต่อกรกับโอโรจิ ซึ่งในเหล่านักรบอสูรเองก็ใช่ว่าจะเป็นคนดีทั้งหมดหนึ่งในนักรบอสูรที่โอซุมุขอร้องให้มาช่วยนั้นมีความเกลียดชังมนุษย์เพราะแค้นที่มนุษย์รังเกลียดตนจึงคิดที่จะปั่นหัวให้พวกนักรบอสูรฆ่ากันเองจนตายจนหมดและจะจัดการกับมนุษย์ทีหลังแต่นักรบอสูรที่เป็นอาจารย์ของทาเคชิปรากฏตัวขึ้นยุติเหตุเสียก่อนจึงไม่สำเร็จ ต่อมาโอซุมุไปพบกับดาบที่สลักชื่อของพี่ชายที่เข้าใจว่าตีเอาไว้เพื่อมอบให้แก่ผู้เป็นอาจารย์แต่ยังไม่สมบูรณ์จึงได้ซ่อนเอาไว้ด้วยความเชื่อมั่นของพี่ชายที่มีต่ออาจารย์ทำให้เขาคิดว่านักรบอสูรผู้นี้ไม่ใช่คนฆ่าพี่ชายเขาอย่างแน่นอนโอซุมุจึงขอร้องให้นักรบอสูรแปลงร่างเพื่อช่วยเหลือผู้คนอีกครั้ง ต่อมาเหล่านักรบอสูรได้รวมตัวกันจนสามารถปราบโอโรจิได้ ทำให้ได้รับการยกย่องสรรเสริญ และยังได้รับการไว้ใจจากคนในสมัยโบราณสืบมา ส่วนจุดประสงค์ในการตั้งกลุ่มก็เพื่อสำนึกในน้ำใจของนักรบอสูรที่คอยช่วยเหลือมนุษย์จากเหตุการณ์ในครั้งนั้น อีกทั้งยังคอยช่วยเหลือเหล่านักรบอสูรในทุก ๆ ด้านไม่ว่าจะเป็นอาวุธ, ยานภาหนะ, ที่ฝึกวิชา, อุปกรณ์แปลงร่างมาตลอดจนกระทั่งถึงในยุคปัจจุบัน การแปลงร่างของนักรบอสูรคือการระเบิดพลังจากภายในของตัวเองในรูปแบบต่างกันออกมาห่อหุ้มร่างกายโดยสีสันและรูปร่างจะเกิดจากภาวะจิตใจของร่างกายและความสามารถเฉพาะตัวนั่นเอง ในการต่อสู้หากเกิดแผลแต่ไม่สาหัสและยังพอมีสติก็สามารถที่จะใช้พลังสมานแผลได้เองทันทีนอกจากนี้นักรบอสูรยังต้องเรียนรู้วิธีคืนร่างเฉพาะส่วน (ส่วนหัว) ด้วยเพราะในการแปลงร่างแต่ละครั้งพลังจะทำการเผาไหม้ชุดที่นักรบอสูรสวมใส่อยู่ให้มอดไหม้ไปหากไม่ศึกษาไว้แล้วในตอนคืนร่างจะอยู่ในสภาพเปลือยทันทีดังนั้นจึงเห็นนักรบอสูรส่วนใหญ่จะมีกระเป๋าใส่เสื้อผ้าและอุปกรณ์ต่าง ๆ ไม่ห่างตัวก็เพราะเหตุนี้นี่เอง

ไรเดอร์อสูรตัวหลัก

มาสค์ไรเดอร์ฮิบิกิ  / มาสค์ไรเดอร์ฮิบิกิคุเรไน  / มาสค์ไรเดอร์อาร์มฮิบิกิ / ฮิดากะ ฮิโทชิ 
ชายหนุ่มอายุ 32 ปี มีจิตใจอ่อนโยนและรักความยุติธรรมอย่างแรงกล้า เป็นคนอารมณ์ดี ขี้เล่น แต่จริงจังกับงาน มีความพยายามที่เป็นเลิศ
ในอดีต ฮิโทชิเคยได้รับการฝึกเพื่อเป็นไรเดอร์อสูรสายดีด แต่เนื่องด้วยความไม่ถนัดจึงได้เปลี่ยนเป็นสายตี แทน
จุดอ่อนของฮิโทชิ คือ ความไม่ถนัดการใช้พาหนะประเภทเครื่องยนต์เช่นรถยนต์และมอเตอร์ไซต์ แต่ในภายหลังฮิโทชิได้พยายามฝึกจนสามารถขับขี่ได้จึงทำให้จุดอ่อนด้านนี้ถูกลบออกไป
ตอนที่ ฮิบิคิ อายุ 16 เขาได้ก้าวข้ามความบอบช้ำทางจิตใจเรื่องเพื่อนหันมาฝึกฝนอย่างหนักจนได้รับพลังพิเศษแปลงร่างเป็นนักรบอสูรได้ นับแต่นั้นเขาออกต่อสู้ปราบมาคาโมไปทั่วผ่านประสบการณ์อย่างโชกโชน จนได้รับการยกย่องว่าเป็นอสูรที่แข็งแกร่งที่สุด ลูกศิษย์รุ่นแรกของเขาคือ อาสึมุ กับ เคียวสุเกะ
ท่าไม้ตาย = โฮจุสึ โอนิบิ, โอนิซึเมะ (กรงเล็บอสูร), โดจุสึ เร็กกะดัน, โบจุสึ เร็กกะเคน
มาสค์ไรเดอร์อิบูกิ  / อิสึมิ อิโอริ 
เป็นคนที่ถือกำเนิดมาพร้อมชะตาชีวิตที่ต้องเป็นไรเดอร์อย่างเดียวเท่านั้นไม่อาจเปลี่ยนแปลงภายใต้สำนักทาเคชิจึงถือได้ว่าเขาเป็นไรเดอร์สายตรง โดยตั้งแต่ยังเด็กเขาจึงถูกเลี้ยงดูและปลูกฝังให้พร้อมที่จะตายในฐานะของไรเดอร์ ซึ่งเป็นชะตาที่เขาไม่ได้เลือกเองถึงแม้จะมีลูกศิตย์แล้วอย่างอากิระ สาวน้อยที่ต้องการเป็นไรเดอร์เพราะต้องการแก้แค้นมาคาโม่ แต่ก็มีบางครั้งเหมือนกันที่อิบุกิแสดงความอ่อนแอออกมาอย่างในช่วงที่ผนึกโอโรจิเป็นต้น โดยส่วนตัวเขาเป็นแข็งนอกอ่อนในพยยามทำตัวแข็มแข็งเพื่อที่จะเป็นอาจารย์ที่ดีนั่นเอง
ท่าไม้ตาย = เซมปูจิน, โอนิซึเมะ (กรงเล็บอสูร), องเงคิชะ ชิปปูอิชเชน 
มาสค์ไรเดอร์โทโดโรกิ  / โทดายามะ โทมิโซ 
อดีตนายตำรวจที่เคยสืบเรื่องราวของมาคาโมและสนใจในคดีที่มาคาโมก่อขึ้น จึงได้ลาออกจากอาชีพตำรวจและหันเหเข้าสู่วถีแห่งไรเดอร์อสูร มีนิสัยอึดอดทนและรั่วอยูเป็นประจำกินข้าวจุชอบทำอะไรที่มักจะเกินตัวอยู่เป็นประจำ โดยหลังจากที่เขาคิดได้ว่าการอยู่กับซันกิต่อไปก็จะมีแต่ต้องพึ่งพาซันกิเท่านั้นจึงขอแยกตัวออกไปทำหน้าที่เพียงลำพัง จนในที่สุดชะตากรรมหน้าเศร้าก็ตกทอดมาถึงโทโรโดกิทำให้เขาไม่สามารถขยับร่างกายได้ตามปกติ จึงได้กลับเข้าสู่ความดูแลของอาจารย์ซันกิอีกครั้ง ซึ่งนั้นก็คือวาระสุดท้ายของอาจารย์ที่ได้ชื่อว่าเป็นอาจารย์ที่แข็งแกร่งที่สุดของเหล่าไรเดอร์
ท่าไม้ตาย = ไรเงคิเคน, โอนิซึเมะ (กรงเล็บอสูร), องเงคิซัน ไรเดนเงคิชิน

ร่างต่างๆของฮิิบิกิ

KRH-Hibiki

Oni-Hibiki

Height: 222cm Weight: 156kg Punching Power: 5t Kicking Power: 4t Maximum Jump Height: 75m Maximum Running Speed: 100m/11s
Hibiki Kurenai

Hibiki Kurenai

Height: 222cm
Weight: 156kg
Punching Power: 10t
Kicking Power: 9t
Maximum Jump Height: 90m
Maximum Running Speed: 100m/18s
Hibiki Armed


Armed Hibiki

Height: 233cm
Weight: 168kg
Punching Power: 20t
Kicking Power: 15t
Maximum Jump Height: 100m
Maximum Running Speed: 100m/66s

รูปภาพที่เกี่ยวข้อง

kamenrider kabuto(มหาเทพ เทนโด)

มาสค์ไรเดอร์คาบูโตะ หรือ คาเมนไรเดอร์คาบูโตะ  เป็นภาพยนตร์ชุดทางโทรทัศน์ลำดับที่ 16 ในซีรีส์มาสค์ไรเดอร์และซีรีส์นี้เป็นการฉลองครบรอบ 35 ปีของมาสค์ไรเดอร์ ซีรีส์ ซึ่งเกิดจากการร่วมงานระหว่างอิชิโนะโมะริโปรดักชันกับ โทเอ คาบูชิกิ ไคชา เริ่มออกอากาศตอนแรกในประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 29 มกราคม ค.ศ. 2006 และอวสานลงเมื่อวันที่ 21 มกราคม ค.ศ. 2007 โดยออกอากาศในช่วงซูเปอร์ฮีโร่ ไทม์ เวลา 8.00 - 8.30 น. รวมจำนวนทั้งสิ้น 49 ตอนและมีภาพยนตร์ตอนพิเศษอีก 1 ตอนโดยมีชื่อว่า God Speed Loveในประเทศไทยลิขสิทธิ์ในการจัดจำหน่ายในรูปแบบ VCD และ DVD เป็นของบริษัทดรีม เอกซ์เพรส (เดกซ์) จำกัด มีการออกทางช่องต่าง ๆ ถึง 4 ช่อง คือ
ช่อง ทรูสปาร์ค (ทรูวิชั่นส์ช่อง 31)
ช่อง โมเดิร์นไนน์ทีวี วันเสาร์-อาทิตย์ เวลา 7.30น.-8.00น. ตั้งแต่เดือน ตุลาคมพ.ศ. 2551 ถึงเดือน มีนาคมพ.ศ. 2552 และออกอากาศอีกครั้งทุกวันพุธเวลา 16.30-17.00น. ตุลาคมพ.ศ. 2553
ช่อง การ์ตูนคลับแชนแนล เสาร์-อาทิตย์ 9.30-10.00น.

ช่อง ซุปเปอร์ บันเทิง (ทรูวิชั่นส์ช่อง 70) วันจันทร์ - พุธ เวลา 18.00-18.30น.

เรื่องย่อ


ในปี 1999 อุกกาบาตตกสู่โลก โดยสถานที่ที่อุกกาบาตตกลงมา คือ เมืองชิบูยะ มหานครโตเกียว สิ่งที่มาพร้อมกับอุกกาบาตนั่นคือ มนุษย์ต่างดาว องค์กร ZECT ได้เรียกขานสิ่งเหล่านั้นว่า “ เวิร์ม 
เวิร์มมีความสามารถที่น่าสะพรึงกลัวและมิอาจคาดเดาได้ พวกเวิร์มมีจุดมุ่งหมายที่จะเข้ามาอยู่แทนที่มนุษย์บนโลกให้หมด พวกมันจึงทำการลอกแบบมนุษย์ที่มันพบ และสังหารต้นแบบทิ้ง และทำการสวมรอยเป็นคนๆนั้นต่อไปเมื่อองค์กรZECT ล่วงรู้ความเคลื่อนไหวของเวิร์ม จึงคิดค้นระบบต่อต้านเวิร์ม ที่เรียกว่า มาสค์ไรเดอร์ ซิสเต็ม” ขึ้นมา เพื่อที่ต่อกรและไล่ล่าเวิร์มในขณะเดียวกัน คางามิ อาราตะ ชายหนุ่มผู้เรียบง่าย ได้พบเจอกับ เทนโด โซจิ ชายหนุ่มปริศนาผู้มาพร้อมกับคาบูโตะ เซ็กเตอร์ การปรากฏตัวขึ้นท่ามกลางการต่อสู้ของZECT และ เวิร์ม ของเทนโด และการก้าวย่างสู่การต่อสู้ของคางามิ ทำให้ทั้ง2 ได้พบกับปริศนาอันสุดจะหยั่งถึง ของเวิร์ม และ เบื้องหลังอันเป็นปริศนาของZECT ทำให้ทั้ง2 ต้องต่อสู้เพื่อความถูกต้องและนำโลกสู่สันติสุขอีกครั้ง ก่อนที่ทุกอย่างจะสายเกินแก้

ตัวละครหลัก

มาสค์ไรเดอร์ คาบูโตะ/เทนโด โซจิ (คุซาคาเบะ โซจิ) แสดงโดย มิสึชิม่า ฮิโร (水嶋ヒロ)
ชายหนุ่มอายุ21 ปี ผู้แปลงร่างเป็น คาบูโตะ ผู้มีวลีประจำตัวว่า เดินบนเส้นทางแห่งสวรรค์ เพื่อครอบครองทุกสิ่ง (天の道を行き、総てを司る) และ คุณย่าเคยบอกไว้ว่า... มีความสามารถพิเศษในหลายๆด้าน มักมองโลกในแง่ร้ายแต่รักน้องสาวของตนอย่างสุดซึ้ง
 มาสค์ไรเดอร์ซาบี
มาสค์ไรเดอร์ ซาบี(คนที่ 2)/มาสค์ไรเดอร์กาทัค/คางามิ อาราตะ แสดงโดย ซาโต ยูคิ (佐藤祐基)
ชายหนุ่มอายุ21 ปี ลูกชายประธานบริษัท ZECT ที่ต้องการใช้ชีวิตอย่างเรียบง่าย เป็นคนมองโลกในแง่ดีจนเกินไปจนบางครั้งนำพาความเดือดร้อนมาสู่ตนเองและผู้อื่น
ในช่วงแรก คางามิ เคยได้รับการคัดเลือกเป็น ไรเดอร์ซาบี แต่เนื่องจากรู้ตัวว่าตนเองไม่เหมาะสมที่จะเป็นซาบี ทำให้ตัดสินเลิกเป็นซาบี แต่ถึงกระนั้น คางามิ กลับได้เป็นไรเดอร์กาทัค โดยบังเอิญและได้ร่วมต่อสู้กำจัดเวิร์มด้วยกันกับเทนโด ภายหลังจากจบการต่อสู้ครั้งสุดท้ายคางามิก็ได้ผันตนเองเป็นตำรวจจราจรเพื่อช่วยเหลือเด็กให้ข้ามถนนอย่างปลอดภัย
มาสค์ไรเดอร์ ซาบี(คนแรก)/มาสค์ไรเดอร์ คิกฮอปเปอร์/ยากุรุมะ โช แสดงโดย โทคุยาม่า ฮิเดโนริ 
ชายหนุ่มอายุ27 ปี ผู้ที่ได้รับคัดเลือกเป็น มาสค์ไรเดอร์ซาบี คนแรก และเป็นหัวหน้าหน่วย ชาโดว์ มักชอบทำงานเป็นทีม รักลูกน้องทุกคน มีวลีประจำตัวว่า "Perfect Harmony " , ถนัดการต่อสู้ด้วยการเตะ
หลังจากถูกZECT ขับไล่จนกลายเป็นคนสิ้นเนื้อประดาตัว ยากุรุมะได้เปลี่ยนแปลงตนเองเป็นคนแข็งกร้าว และได้รับคัดเลือกเป็น มาสค์ไรเดอร์คิกฮอปเปอร์ ในศึกการสู้ครั้งสุดท้ายยากุรุมะได้รู้ว่า คาเงยาม่าได้สวมสร้อยที่ทำให้กลายเป็นเนทีฟขึ้นมา ยากุรุมะได้กำจัดคาเงยาม่าทันที ถึงแม้คาเงยาม่าตายไปแต่ยากุรุมะก็ยังนำศพคาเงยาม่ามาไว้กับตนอยู่ดีเพราะยากุรุมะยังเคารพลูกน้องอย่างคาเงยาม่าตลอด
มาสค์ไรเดอร์ ซาบี(คนที่ 3)/มาสค์ไรเดอร์พั๊นซ์ฮอปเปอร์/คาเงยามะ ชุน แสดงโดย อุจิยาม่า มาซาโตะ
ชายหนุ่มอายุ20 ปี ผู้ที่ได้รับคัดเลือกเป็น มาสค์ไรเดอร์ซาบี คนที่3 มีนิสัยเห็นแก่ตัว ขี้อิจฉา ทำดีเอาหน้า ทรยศ             ได้แม้แต่คนใกล้ชิด ภายหลังเมื่อผลกรรม ความชั่วที่คาเงยาม่า ก่อขึ้น กลับย้อนมาทำร้ายตนเอง
หลังจากที่ถูก ZECT ขับไล่ คาเงยาม่าได้รับการเลี้ยงดูจากยากุรุมะ และชักชวนให้เป็นพี่-น้อง/คู่หู ร่วมสาบาน พร้อมกับการเป็น มาสค์ไรเดอร์ พั๊นซ์ฮอปเปอร์ ไปในตัว ในศึกการต่อสู้ครั้งสุดท้ายคาเงยาม่าได้หลงกลสวมสร้อยที่ทำให้กลายเป็นเนทีฟไป ทำให้ตนได้กลายเป็นเนทีฟตนจึงยอมให้ยากุรุมะกำจัดตนไปใน ทำให้คาเงยาม่าต้องจบชีวิตลงอย่างน่าเศร้าไปในที่สุด
มาสค์ไรเดอร์ เดรก/คาซามะ ไดสุเกะ แสดงโดย คาโต คาซึคิ 
ชายหนุ่มอายุ22ปี เป็นช่างแต่งหน้ามืออาชีพ มีฉายาว่า "Ultimate Make up" ชื่นชอบการแต่งหน้าสาวๆ มีนิสัยรักสนุกมากกว่าที่จะต่อสู้ เจ้าชู้ และรักเด็กสาวมีวลีประจำตัวว่า "ใช่ๆนั้นแหล่ะๆ" โดยคำพูดนี้จะพูดหลังจากที่ไดสุเกะคิดอะไรไม่ออกแล้วให้กอนพูดเสริมคำที่ถูกต้องให้
มาสค์ไรเดอร์ ซาซอร์ด/ดิสคาบิว คามิชิโร่ ซึรุงิ แสดงโดย ยามาโมโตะ ยูซุเกะ 
คุณหนูตระกูล ดิสคาบิว ที่มักชื่นชอบการใช้จ่ายฟุ่มเฟือยจนเป็นหนี้สินท่วมบ้าน มีนิสัยแปลกๆ ด้วยความที่ไม่เคยรู้เรื่องวิถีชีวิตแบบคนสามัญ ทำให้ถูกมองว่าเป็นคนติงต๊อง ทั้งๆที่ความจริงแล้ว ซึรุงิ เป็นคนที่มีฝีมือการต่อสู้จัดในขั้นดี มีวลีประจำตัวว่า "ปู่เคยพูดเอาไว้" ซึ่งเป็นการเลียนแบบวลีประจำตัวของ เทนโด จึงจัดได้ว่าซึรุงิคือคู่แข่งคนสำคัญของเทนโดก็ว่าได้เนื่องจากทั้งคู่ได้แข่งขันกีฬาทุกประเภททำให้ต่างคนต่างเสมอกันจนไม่มีใครยอมใครเลยทีเดียว
ในอดีตซึรุงิมีพี่สาวคนหนึ่งแต่กลับถูกสกอร์เปี้ยน เวิร์มสังหารต่อหน้าตนทำให้ตนมีความแค้นกับสกอร์เปี้ยน เวิร์มอย่างมาก ซึรุงิได้สาบานเอาไว้ว่า"เวิร์มทุกตัวคือเหยื่อของฉัน ฉันจะจัดการให้หมดทุกตัว"ต่อมาซึรุงิรับคางามิเป็นเพื่อนถึงขั้นกับว่าให้คางามิยกย่องเป็นสหายเลยทีเดียว ซึรุงิแอบชอบมิซาคิตั้งแต่แรกเห็นตนได้ทำทุกอย่างเพื่อเอาใจมิซาคิแต่ต้องคว้าน้ำเหลวมาตลอด แต่ตอนหลังมิซาคิเห็นซึรุงิปกป้องมิซาคิอย่างสุดกำลังถึงขั้นยอมแลกเอาชีวิต ทำให้มิซาคิใจอ่อนและยอมคบซึรุงิไปในที่สุด แต่ต่อมาซึรุงิได้รู้ว่าสกอร์เปี้ยน เวิร์มอยู่ในร่างของตนหลังจากที่กำจัดพี่สาวของตนไปแล้วตนจึงโดนสกอร์เปี้ยน เวิร์มเข้าร่างไปจนตนไม่รู้สึกอะไรเลยหลังจากนั้นในที่สุดเขาก็ได้ตัดสินใจยอมให้คาบูโตะกำจัดตนแล้วทำให้ตนต้องมาจบชีวิตอย่างน่าเศร้าไปที่สุด
คุซาคาเบะ ฮิโยริ แสดงโดย ซาโตนากะ ยุอิ 
สาวอายุ18 ปี เป็นลูกจ้างร้านBistro la Salle ชอบทำหน้าตาเรียบเฉยและวาดรูปนางฟ้าในรูปแบบของตน เป็นคนที่เทนโดต้องคอยปกป้องอยู่เสมอๆเพราะมีสัมพันธ์ทางสายเลือดกับเทนโด โซจิ
มิซาคิ ยูซึคิ แสดงโดย นางาตะ อันนะ 
สาวอายุ23ปี พนักงานบริษัท ZECT ที่มีฝีมือการต่อสู้ที่เฉียบคม 
เป็นลูกน้องคนสนิทของทาโดโคโร่ เป็นเพื่อนร่วมงานและเพื่อนสนิทที่ห่วงคางามิทุกครั้งยามที่เขาลำบาก เธอถูกซึรุงิตามตื้ออยู่บ่อยครั้งจนเธอใจอ่อนยอมให้ซึรุงิคบในที่สุดแต่ต่อมาเธอรู้ว่า ซึรุงิถูกสกอร์เปี้ยนเวิร์มเข้าร่างไปและถูกคาบูโตะกำจัดไปทำให้เธอเสียใจอย่างมาก หลังจากจบศึกการต่อสู้ครั้งสุดท้ายนั้นเธอได้ผันตัวเองเป็นผู้จัดการฝ่ายการตลาดของบริษัทดิสคาบิวกรุ๊ฟจำกัดตามคำขอของปู่จิยะซึ่งเป็นพ่อบ้านของซึรุงิ
เทนโด จูกะ แสดงโดย โอคุมุระ นัตซึมิ 
น้องสาวบุญธรรมของเทนโด โซจิ อายุ13ปี จูกะเป็นคนง่ายๆสบายๆ ชื่นชอบการรับประทานเป็นชีวิตจิตใจ โดยเฉพาะอาหารที่เทนโด ทำให้ เธอจะรับประทานหมดทุกครั้ง
ทาโดโคโร่ ชูอิจิ แสดงโดย ยามากุจิ โยชิยูคิ 
หนุ่มใหญ่อายุ35ปี เป็นพนักงานของบริษัทZECT เป็นคนเด็ดขาดและเป็นที่รักของลูกน้อง อาชีพของทาโดโคโร่แต่ก่อนนั้นก็คือขายโซบะ แต่ตัวตนที่แท้จริงของเขาก็คือเนทีฟทำให้คางามิที่เห็นนั้นกลับไม่พอใจ แต่ภายหลังต่างคนต่างได้ปรับความเข้าใจกันได้ ทำให้คางามิเข้าใจได้ในที่สุด หลังจากจบการต่อสู้ครั้งสุดท้ายทาโดโคโร่ก็ได้กลับมาเป็นคนขายโซบะและส่งโซบะตามบ้านทุกๆหลังตามเคย
ทาคาโทริ เรนเกะ แสดงโดย ชิเทมะ ยูกะ 
สาวน้อยพนักงานบริษัท ZECT แต่เดิมถูกส่งมากำจัดเทนโด แต่กลับหลงใหลบุคลิกส่วนตัวของเทนโด เรื่องการทำอาหารค่อนข้างแย่พอๆกับความไม่ถนัดด้านการใช้ภาษาญี่ปุ่น บ่อยครั้งที่มักจะเข้าใจผิดกับคำพ้องเสียง

ผู้เกี่ยวข้องกับ ZECT


ไรเดอร์ ซิสเต็ม

ไรเดอร์ ซิสเต็ม คือระบบที่ZECT คิดค้นขึ้นมาเพื่อใช้ในการต่อสู้กับเวิร์ม โดยเฉพาะ ,ไรเดอร์ ซิสเต็ม ผลิตขึ้นมาเพื่อสอดคล้องและรองรับพลังของเซ็กเตอร์ ทั้งยังช่วยให้พลังในตัวของเซ็กเตอร์เพิ่มขึ้น
  • ชื่อมาสค์ไรเดอร์ที่ปรากฏในเรื่องนี้ อ่านออกเสียงและทับศัพท์ตัวสะกดโดยยึดหลักตามต้นฉบับ (ภาษาญี่ปุ่น) เท่านั้น

KabutoMF

มาสค์ฟอร์ม

คาบูโตะKabutoMF
มาสค์ไรเดอร์ คาบูโตะ มีต้นแบบมาจาก ด้วงกว่างญี่ปุ่น ผู้ที่แปลงร่างเป็น ไรเดอร์ คาบูโตะ มีเพียงเทนโด โซจิ คนเดียวตลอดทั้งเรื่อง ส่วนสาเหตุการได้มานั้นยังคงเป็นปริศนาต่อไป
ข้อมูล
สูง = 190 ซม.
หนัก = 132 กก.
พลังหมัด = 8 ตัน
พลังเตะ = 10 ตัน
พลังกระโดด = 20 เมตร
ความเร็วในการวิ่ง = 100 เมตร / 8.9 วินาที
Krk-Kabuto

ไรเดอร์ฟอร์ม
ข้อมูล
สูง = 195 ซม.
หนัก = 95 กก.
พลังหมัด = 3 ตัน
พลังเตะ = 7 ตัน
พลังกระโดด = 37 เมตร
ความเร็วในการวิ่ง = 100 เมตร / 5.8 วินาที
    Krk-KabutoHF-DefaultKrk-KabutoHFClock up mode

    ไฮเปอร์ฟอร์ม

    ข้อมูล
    สูง = 198 ซม.
    หนัก = 102 กก.
    พลังหมัด = 10 ตัน
    พลังเตะ = 15 ตัน
    พลังกระโดด = 50 เมตร
    ความเร็วในการวิ่ง = 100 เมตร / 4.2 วินาที



      ร่างต่างๆของคิบะ

      คิบะ สามารถเปลี่ยนร่างด้วยการเรียกฟูเอเซิลที่เอวข้างซ้าย และเมื่อใช้ท่าไม้ตายในการกำจัดแฟงไกอา จะสามารถแปรสภาพท้องฟ้าจากกลางวันเป็นกลางคืนได้ชั่วขณะ ในขณะเดียวกันถ้าผู้ใช้หรือคิแบท มีอาการป่วยเพียงเล็กน้อยจะไม่สามารถใช้พลังในการแปรสภาพท้องฟ้าได้ซึ่งเป็นจุดอ่อนอย่างหนึ่งของคิบะ

      คิบะฟอร์มWhat-aru Kurenai

      คิบะฟอร์ม เป็นร่างพื้นฐานของคิบะซึ่งเกิดจากการแปลงร่างด้วยพลังคิแบท แบท รุ่น 3
      • ความสูง: 2 เมตร
      • น้ำหนัก: 98 กก.
      • พลังหมัด: 6 ตัน
      • พลังเตะ: 8 ตัน
      • ท่าไม้ตาย ( ดาร์คเนส มูน เบรก ) : 30 ตัน
      • ระดับการกระโดดสูง: 85 เมตร (ด้วยขาซ้ายข้างเดียว)
      • ระดับการวิ่ง: 100 เมตร/6.5 วินาที
      คิบะ มีท่าไม้ตายประจำตัว ลูกเตะ ดาร์คเนส มูน เบรก (Drakness Moon Break)

      Not Agito Storm Form

      การูรูฟอร์ม เป็นร่างที่ 2 ของคิบะซึ่งได้รับพลังมาจากการูรู ถนัดการโจมตีระยะประชิด โจมตีด้วยพลังเพลิง
      คิบะ เปลี่ยนร่างด้วยการใช้การูรู ฟูเอเซิล เรียกออกมาและรับ การูรู เซเบอร์ ด้วยมือซ้าย ทำให้แขนซ้าย, เกราะหน้าอก เปลี่ยนเป็นเกราะสีน้ำเงิน ดวงตาสีเหลืองเปลี่ยนเป็นดวงตาสีน้ำเงิน น้ำเสียงเปลี่ยนเป็นเสียงของการูรู
      โดยมาก เสียงของการูรู จะมีลักษณะคล้ายกับการขู่ของสุนัข
      • ความสูง: 2 เมตร
      • น้ำหนัก: 90 กก.
      • พลังหมัด: 5 ตัน
      • พลังเตะ: 9 ตัน
      • ท่าไม้ตาย ( การูรู ฮาวล์ลิ่ง สแลช ) : ไม่ปรากฏ
      • ระดับการกระโดดสูง: 40 เมตร
      • ระดับการวิ่ง: 100 เมตร/1.5 วินาที
      คิบะ การูรูฟอร์ม มีท่าไม้ตายประจำตัวคือ การูรู ฮาวล์ลิ่ง สแลช ด้วยการใช้ การูรู เซเบอร์ คาบไว้ที่ปากและกระโดดหมุนตัวกลางอากาศ จากนั้นทำการฟันศัตรูพร้อมกับปล่อยเปลวเพลิงสีน้ำเงิน (และตรา การูรู) ประทับร่างแฟงไกอา

      แบชเชอร์ฟอร์มMerman Rider Is Green With Envy

      แบชเชอร์ฟอร์ม เป็นร่างที่ 3 ของคิบะซึ่งได้รับพลังมาจากแบชเชอร์ ถนัดการโจมตีในระยะไกล โจมตีด้วยพลังวารี
      คิบะ เปลี่ยนร่างด้วยการใช้แบชเชอร์ ฟูเอเซิล เรียกออกมาและรับ แบชเชอร์ แม็กนั่ม ด้วยมือขวา ทำให้แขนขวา, เกราะหน้าอก เปลี่ยนเป็นเกราะสีเขียว ดวงตาสีเหลืองเปลี่ยนเป็นสีเขียว น้ำเสียงเปลี่ยนเป็นเสียงของแบชเชอร์
      • ความสูง: 2 เมตร
      • น้ำหนัก: 92 กก.
      • พลังหมัด: 3 ตัน
      • พลังเตะ: 3 ตัน
      • ท่าไม้ตาย (แบชเชอร์ อควา ทอร์เนโด) : ไม่ปรากฏ
      • ระดับการกระโดดสูง: 20 เมตร
      • ระดับการวิ่ง: 100 เมตร /6 วินาที
      • ระดับการดำน้ำ: 162 น็อต (300 เมตร)
      คิบะ แบชเชอร์ฟอร์ม มีท่าไม้ตายประจำตัวคือ แบชเชอร์ อควา ทอร์เนโด ด้วยการใช้ แบชเชอร์ แม็กนั่ม ยิงกระสุนน้ำใสศัตรู เพื่อทำการสะกดการเคลื่อนไหวของแฟงไกอา กระสุนน้ำที่ยิงออกไปมีอุณหภูมิติดลบมากกว่า0องศา ทำให้แฟงไกอาที่โดนกระสุนน้ำ ไม่สามารถเคลื่อนไหวจนเหมือนกับถูกแช่แข็งและสิ้นชีพเพียงปลายนิ้วสัมผัส ในที่สุด

      โดกกาฟอร์มEye Think It's Hammer Time

      โดกกาฟอร์ม เป็นร่างที่ 4 ของคิบะซึ่งได้รับพลังมาจากโดกกา ถนัดการโจมตีด้วยพละกำลังและพลังสายฟ้า
      คิบะ เปลี่ยนร่างด้วยการใช้โดกกา ฟูเอเซิล เรียกออกมาและรับ โดกกา แฮมเมอร์ ด้วยมือขวาและมือซ้าย ทำให้แขนขวา, แขนซ้าย และเกราะหน้าอก เปลี่ยนเป็นเกราะสีม่วง ดวงตาสีเหลืองเปลี่ยนเป็นสีม่วง น้ำเสียงเปลี่ยนเป็นเสียงของโดกกา
      • ความสูง: 2 เมตร
      • น้ำหนัก: 150 กก.
      • พลังหมัด: 15 ตัน
      • พลังเตะ: 4 ตัน
      • ท่าไม้ตาย (โดกกา ธันเดอร์ สแลป) : 30 ตัน
      • ระดับการกระโดดสูง: 10 เมตร
      • ระดับการวิ่ง: 100 เมตร/ 10 วินาที
      คิบะ โดกกาฟอร์ม มีท่าไม้ตายประจำตัวคือ โดกกา ธันเดอร์ สแลป ด้วยการใช้เปิด ทรูอาย ของ โดกกา แฮมเมอร์ เพื่อสะกดแฟงไกอาไม่สามารถเคลื่อนไหว จากนั้นจะปรากฏ โดกกา แฮมเมอร์ ขนาดใหญ่ออกมา แล้วคิบะจะใช้ โดกกาแฮมเมอร์ อันนั้นทุบไปที่ร่างของแฟงไกอาที่ถูกสะกดการเคลื่อนไหวอยู่ พร้อมประทับตราของ โดกกา ลงไปด้วย

      โดกาบาคิฟอร์มHow Many Times Did This Even Get Used

      โดกาบาคิฟอร์ม เป็นร่างที่ 5 ของคิบะ ซึ่งได้รับพลังมาจากการูรู, แบชเชอร์ และโดกกา มารวมไว้ในร่างเดียวกัน สามารถใช้อาวุธจากทั้ง3ฟอร์ม (การูรู, แบชเชอร์, โดกกา) ได้อย่างคล่องแคล่ว
      โดกาบาคิฟอร์ม เกิดจากการที่ คิแบทมีอาการป่วยเป็นไข้หวัดทำให้ไม่สามารถส่งพลังได้อย่างเต็มที่ จึงได้เรียกการูรู, แบชเชอร์ และโดกกา มาช่วยในการสู้แทนตน แม้ไม่สามารถแปรสภาพท้องฟ้าจากกลางวันเป็นกลางคืน แต่ทดแทนด้วยรูปแบบการโจมตีอย่างต่อเนื่องจากพลังทั้ง4ฟอร์ม
      • ความสูง: 2 เมตร
      • น้ำหนัก: 140 กก.
      • พลังหมัด: 10 ตัน
      • พลังเตะ: 15 ตัน
      • ท่าไม้ตาย : ไม่ปรากฏ
      • ระดับการกระโดดสูง: 50 เมตร
      • ระดับการวิ่ง: 100 เมตร/ 5 วินาที
      Overused
      Kamen Rider Bujin Den-O

      kanmenrider Den-o



      มาสค์ไรเดอร์เดนโอ  เป็นภาพยนตร์ชุดทางโทรทัศน์ลำดับที่ 17 ในซีรีส์มาสค์ไรเดอร์หรือไอ้มดแดง ซึ่งเกิดจากการร่วมงานระหว่างอิชิโนะโมะริโปรดักชันกับ โทเอ คาบูชิกิ ไคชา เริ่มออกอากาศตอนแรกในประเทศญี่ปุ่นเมื่อวันที่ 28 มกราคม ค.ศ. 2007 ถึงวันที่ 20 มกราคม ค.ศ. 2008 ทางสถานีโทรทัศน์อาซาฮี ออกอากาศทั้งหมด 49 ตอน และมีภาพยนตร์ตอนพิเศษอีก 9 ตอนด้วยกัน ประกอบไปด้วย
      มาสค์ไรเดอร์เดนโอ โอเรทันโจ! (劇場版 仮面ライダー電王 俺、誕生!ออกฉายทางโรงภาพยนตร์ ปี2007[1][2]
      คาเมนไรเดอร์เดนโอ+ชินโอ (仮面ライダー電王+しん王ออกฉายทางโทรทัศน์ร่วมกับชินจังจอมแก่น จำนวนเวลาฉาย 11 นาที
      มาสค์ไรเดอร์เดนโอ & คิบะ ไคลแม็กซ์ เดกะ (劇場版 仮面ライダー電王&キバ クライマックス刑事ออกฉายทางโรงภาพยนตร์ปี 2008[3][4][5][6]
      ซาราบะ คาเมนไรเดอร์เดนโอ ไฟนอล เค้าท์ดาวน์ (劇場版 さらば仮面ライダー電王 ファイナル・カウントダウンออกฉายทางโรงภาพยนตร์ปี 2008[7]
      โชว คาเมนไรเดอร์เดนโอ & ดีเคด NEO เจเนเรชั่น ศึกเรือยักษ์โอนิงาชิมะ (劇場版 超・仮面ライダー電王&ディケイド NEO ジェネレーションズ 鬼ヶ島の戦艦ออกฉายทางโรงภาพยนตร์ปี 2009[8]
      คาเมนไรเดอร์ คาเมนไรเดอร์ คาเมนไรเดอร์ The Movie โชว เดนโอ ไทรโลจี  : EPISODE RED ดวงดาวที่ส่องประกาย(สตาร์ทวินเคิล)ของเซโร่ (仮面ライダー×仮面ライダー×仮面ライダー THE MOVIE 超・電王トリロジーEPISODE RED ゼロのスタートウィンクルออกฉายทางโรงภาพยนตร์ พฤษภาคม ปี2010[9]
      คาเมนไรเดอร์ คาเมนไรเดอร์ คาเมนไรเดอร์ The Movie โชว เดนโอ ไทรโลจี  : EPISODE BLUE บททดสอบครั้งใหม่(NEW) การร่วมมือกับอิมาจิน (仮面ライダー×仮面ライダー×仮面ライダー THE MOVIE 超・電王トリロジーEPISODE BLUE 派遣イマジンはNEWトラルออกฉายทางโรงภาพยนตร์ มิถุนายน ปี2010[10]
      คาเมนไรเดอร์ คาเมนไรเดอร์ คาเมนไรเดอร์ The Movie โชว เดนโอ ไทรโลจี  : EPISODE YELLOW นักล่าสมบัติดิเอนด์ (仮面ライダー×仮面ライダー×仮面ライダー THE MOVIE 超・電王トリロジーEPISODE YELLOW お宝DEエンド・パイレーツออกฉายทางโรงภาพยนตร์ มิถุนายน ปี2010[11]
      โอซ์. เดนโอ . ออลไรเดอร์ เล็ท'ส โก มาสค์ไรเดอร์ (オーズ・電王・オールライダー レッツゴー仮面ライダーออกฉายทางโรงภาพยนตร์ 1 เมษายน ค.ศ. 2011
      ในประเทศไทยจัดจำหน่ายในรูปแบบ VCD และ DVD โดย DEX ภาคทีวีซีรีส์ และภาคภาพยนตร์พิเศษตอน Ore Tanjou , ซาราบะ คาเมนไรเดอร์เดนโอ ไฟนอล เค้าท์ดาวน์ ส่วน ตอนคาเมนไรเดอร์เดนโอ & คิบะ ไคลแม็กซ์ เดกะ เป็นลิขสิทธิ์ของบริษัทดรีมวิชั่น เคยออกอากาศทางทรูสปาร์ค และออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์โมเดิร์นไนน์เริ่มวันที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2552 โดยออกอากาศทุกวันอาทิตย์เวลา 7:35 น.

      เรื่องย่อ

      โนงามิ เรียวทาโร่ เด็กหนุ่มที่ถูกขนามนามว่า ชายหนุ่มโชคร้ายที่สุดในญี่ปุ่น วันหนึ่งเขาได้บังเอิญพบกับเหตุการณ์ประหลาด หญิงลึกลับ ตลับไรเดอร์พาส และขบวนรถไฟกาลเวลา เดนไลเนอร์ ทำให้ชีวิต ของเขาเปลี่ยนไป
      เรียวทาโร่ได้แปลงร่างเป็น ไรเดอร์เดนโอด้วยความบังเอิญ และร่วมมือกับอิมาจิน อย่าง โมโมทารอส,อุราทารอส,คินทารอส,ริวทารอส และ ชิ๊ค เพื่อต่อสู้กับอิมาจินชั่วร้าย ที่คอยดูดซับพลังงานจาก ความทรงจำในอดีตของผู้คนผ่านการทำสัญญา เพื่อไม่ให้มิติเวลาผิดเพี้ยนไป โนงามิ เรียวทาโร่ หรือ ไรเดอร์เดนโอ และ อิมาจินคู่หูของเขา จึงจำเป็นที่ต้องขัดขวางแผนการของเหล่า อินมาจิน และ ปกป้องกาลเวลาไม่ให้สูญสลายและบิดผันไป

      ตัวละคร



      ตัวละครหลัก
      ผู้เกี่ยวข้องกับเดนไลเนอร์


      มาสค์ไรเดอร์เดนโอโนงามิ เรียวทาโร่ (野上良太郎) แสดงโดย ซาโต ทาเครุ (佐藤健) 
      เด็กหนุ่มอายุ 18 ปี ผู้ได้ชื่อว่า ชายหนุ่มผู้โชคร้ายที่สุดในโลก เขาเก็บไรเดอร์พาสได้โดยบังเอิญ และหลังจากการชักชวนของฮานะและโมโมทารอส ได้ตัดสินใจที่จะใช้ไรเดอร์พาสเพื่อต่อสู้ในฐานะเดนโอ
      นิสัยของเรียวทาโร่ เป็นคนที่ใจดี มีเมตตา ไม่ชอบความอยุติธรรมที่เกิดขึ้น บางครั้งมักจะหัวแข็งและดื้อรั้นกับอิมาจินที่สิงร่างที่กระทำความผิด จนกว่าจะเอ่ยปาก"ขอโทษ" ถึงจะให้อภัย และด้วยความที่เป็นคนจิตใจดีทำให้อิมาจินที่สิงร่างเรียวทาโร่ ต่างยอมรับในตัวเรียวทาโร่และทำให้กลายเป็นเพื่อนร่วมต่อสู้ในที่สุด
      นอกจากนี้ เรียวทาโร่ยังเป็นคนที่วางแผนการได้ดี สามารถรู้ได้ว่าอิมาจินตัวไหนที่เหมาะกับสภาพการต่อสู้แบบใด รวมไปถึงการเหน็บแนมอิมาจิน โดยเฉพาะอุราทารอส ที่โดนเรียวทาโร่เหน็บแนมเรื่องชื่อ (จากช่วงท้ายตอนที่ 8)
      เพราะความที่รักพี่สาว และเกรงว่าพี่สาวจะรื้อฟื้นเรื่องราวในอดีต เรียวทาโร่จึงหาทางบ่ายเบี่ยงไม่ให้ไอริ รู้เรื่องเกี่ยวกับอดีต และไม่เอ่ยชื่อ"ซากุราอิ ยูโตะ"(ชายลึกลับ) ให้ไอริ ได้ยินอีก

      ฮานะ / โคฮานะ

      ฮานะ (ハナ) แสดงโดย ชิราโทริ ยูริโกะ (白鳥百合子) / โคฮานะ (コハナ) แสดงโดย มัทสึโมโตะ ทามาคิ (松元 環季)
      หญิงสาวอายุ 19 ปี ผู้โดยสารของเดนไลเนอร์ เป็นผู้พบว่าเรียวทาโร่เหมาะสมที่จะใช้ไรเดอร์พาสเพื่อแปลงร่างเป็นเดนโอ ประวัติอื่น ๆ และที่มายังเป็นปริศนา ความลับบางอย่างของฮานะได้ถูกเฉลยออกมาเล็กน้อยในตอนที่ 10 และในช่วงท้ายของเรื่อง ได้เฉลยออกมาว่า แท้จริงแล้ว ฮานะคือลูกสาวคนเดียวของโนงามิ ไอริ และ ซากุราอิ ยูโตะ ทำให้ฮานะ มีจุดพิเศษเช่นเดียวกับซากุราอิ ยูโตะ แต่เหตุที่ยุคสมัยของเธอถูกทำลายเนื่องจากทำให้ถูกลืม(ฮานะ)เพื่อป้องกันไม่ให้ถูกอิมาจินยึดครอง ทำให้ยุคสมัยของฮานะที่เคยอยู่ไม่มีความทรงจำเกี่ยวกับเธอทั้งหมด มีเพียงความทรงจำที่เกี่ยวข้องกับเรียวทาโร่ อิมาจินบางตัว และการทำสัญญากับเดนไลเนอร์ ทำให้เธอยังมีตัวตนต่อไป
      ความสัมพันธ์ที่แท้จริงของฮานะกับเรียวทาโร่นั้น มีศักดิ์เป็นน้าชาย-หลานสาว แต่ถึงกระนั้นฮานะยังคงเรียกเรียวทาโร่ว่า เรียวทาโร่ เช่นเดิม
      นิสัยของฮานะ เป็นคนเด็ดเดี่ยวไม่กลัวใครแม้แต่อิมาจิน ถึงขั้นตบหัวหรือทำร้ายร่างกายอิมาจินได้ และได้รับการสถาปนาจากคนดู กลายเป็น "เจ้าแม่ฮานะ" เจ้าแม่เดนไลเนอร์ เลยทีเดียว (นับว่าเป็นสิ่งมีชีวิตที่น่ากลัวกว่าอิมาจินเสียอีก) แต่กับ เรียวทาโร่ นั้น เธอเปรียบเสมือนเพื่อนและพี่สาวที่ให้คำแนะนำแก่เรียวทาโร่ เป็นอย่างดี
      แม้ภายนอก ฮานะ จะดูเหมือนแข็งกร้าวและคุมอำนาจอิมาจิน แต่ลึกๆแล้ว เธอกลับรู้สึกผูกพันกับอิมาจิน เพียงแต่ไม่แสดงออกมาให้ใครเห็นเท่านั้น ทำให้ถูกมองว่าเธอเป็นคนปากแข็งและไม่ตรงกับใจ อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
      ท่าไม้ตายของฮานะ คือ ฮานะพั๊นซ์ (ที่สามารถต่อยอิมาจินมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน และมีพลังร้ายกาจจนสามารถทำลายเดนไลเนอร์ได้เลยทีเดียว) และ ฮานะครอสไลน์
      ฮานะ ได้กลายสภาพจากร่างหญิงสาว เป็นเด็กหญิง ในช่วงกลางเรื่องเนื่องด้วยผลกระทบจากช่วงว่างแห่งเวลาปริศนาที่เกิดขึ้นอย่างไม่มีใครทราบสาเหตุ ประกอบกับการบิดผันของเวลาจากเหตุการณ์การก่อการร้ายของมาสค์ไรเดอร์กาโอ ทำให้ร่างกายของฮานะเปลี่ยนสภาพไป แต่เรื่องพละกำลังและสมองยังคงสภาพเช่นเดิม สามารถต่อกรกับอิมาจินได้เช่นเดิม

      นาโอมิ

      นาโอมิ (ナオミ) แสดงโดย อาคิยามะ รินะ (秋山莉奈)
      หญิงสาว พนักงานต้อนรับผู้คอยอำนวยความสะดวกและให้บริการต่าง ๆ แก่ผู้โดยสารเดนไลเนอร์
      นาโอมิ เป็นคนชงกาแฟที่ไม่ได้เรื่องเอามากๆ รสชาติของกาแฟที่นาโอมิ บริการนั้น มนุษย์ธรรมดาแทบจะทานไม่ได้หรือไม่กล้าทานเพราะสีสันจัดจ้านเกินไป (เหมือนเอาสีน้ำมาใส่ในถ้วยกาแฟเสียมากกว่า) แต่ทว่าอิมาจินที่โดยสารเดนไลเนอร์ กลับสามารถทานได้และชมเป็นเสียงเดียวกันว่า"อร่อยที่สุด" ซึ่งไม่รู้ว่าประชด หรือ ชื่นชมกันแน่
      นิสัยของนาโอมิ เป็นคนง่ายๆ ยิ้มแย้มแจ่มใส แต่ไร้สติ ถึงแม้ว่าจะมีอิมาจินต่อยบนเดนไลเนอร์ กลับไม่ห้ามปรามหนำซ้ำเชียร์ให้ต่อย อย่างไม่ทุกข์ร้อนใดๆ

      โอว์นเนอร์

      โอว์นเนอร์ (オーナー) แสดงโดย อิชิมารุ เคนจิโร่ (石丸謙二郎)
      ชายวัยกลางคน เป็นผู้สร้างเดนไลเนอร์ และเป็นผู้โดยสารระดับ V.I.P. ของเดนไลเนอร์ ประวัติและที่มายังเป็นปริศนา
      โอว์นเนอร์ เป็นคนที่ชอบสั่งข้าวผัดจากนาโอมิ เป็นประจำ และมีวิธีการรับประทานที่ไม่เหมือนใคร โดยที่โอว์นเนอร์จะตักข้าวโดยไม่ให้ธงที่ปักบนข้าวล้มลงมา และเมื่อธงที่ปักบนข้าวล้มลง โอนเนอร์จะไม่ทานต่อและชักดาบหนีไปทันที

      โนงามิ ไอริ

      โนงามิ ไอริ (野上愛理) แสดงโดย มัตซึโมโตะ วาคานะ (松本若菜)
      พี่สาวของเรียวทาโร่ ดำเนินกิจการร้านกาแฟชื่อ มิลค์ดิปเปอร์ อายุ 22 ปี
      ไอริ เป็นพี่สาวใจดีของเรียวทาโร่ มักจะทำสมุนไพรทุกครั้ง เพื่อคอยปฐมพยาบาลให้เรียวทาโร่ ทุกครั้งที่เขากลับมาถึงบ้าน และด้วยความที่เป็นคนใจดี มีเมตตา ทำให้มีหนุ่มๆมาคอยติดพันอยู่เรื่อยๆ และร้านกาแฟของเธอก็เป็นแหล่งชุมนุมของหนุ่มๆที่คิดจะจีบเธอ เสมอๆ
      เพราะความที่เป็นคนใจดีและมองโลกในแง่ดี (เกินไป) ของไอริ ทำให้ไม่เคยเดือดเนื้อร้อนใจกับเหตุการณ์เลยสักนิด แม้ว่าสถานการณ์ที่เกิดขึ้นจะเลวร้ายสักเพียงใดก็ตาม
      ในอดีต ไอริ เคยมีแฟนอยู่คนหนึ่งชื่อ ซากุราอิ ยูโตะ แต่ได้หายตัวไปอย่างลึกลับในระหว่างที่กำลังออกเดทที่ทะเลสาบแห่งหนึ่ง โดยที่ ซากุราอิ ยูโตะ หายตัวไปต่อหน้าต่อตาไอริ และเขาสวมชุดโค้ทสีน้ำตาล อันเป็นภาพสุดท้ายก่อนที่จะหายตัวไป ทำให้ไอริ เสียใจอย่างหนักจนความจำเสื่อม จำเรื่องราวของแฟนตนเองไม่ได้ ในภายหลังไอริเริ่มรู้สึกแล้วว่าเธอได้ลืมบางสิ่งบางอย่างไป ซึ่งทั้งหมดเป็นแผนการของไอริ ที่ต้องการปกป้องซากุราอิ และ คอยดูแลเรียวทาโร่ให้รอดพ้นจากอิมาจิน นอกจากนี้ไอริเป็นคนที่รู้ว่า เรียวทาโร่ เป็นมาสค์ไรเดอร์เดนโอ และรู้เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับเรียวทาโร่ เพียงแต่ไม่แสดงออกต่อหน้าเรียวทาโร่เท่านั้น

      ซากุราอิ ยูโตะ
      มาสค์ไรเดอร์เซโรนอส / ซากุราอิ ยูโตะ (桜井侑斗) แสดงโดย นาคามุระ ยูอิจิ (中村 優一)
      ชายหนุ่มผู้มีชื่อและนามสกุลเหมือนกับชายลึกลับ ปรากฏตัวอย่างกะทันหันต่อหน้าเรียวทาโร่ และ ฮานะ ที่กำลังสงสัยในเรื่องของซากุราอิ ยูโตะ (ชายลึกลับ) , ซากุราอิ ยูโตะ (เซโรนอส) มีนิสัยรักสนุก ชื่นชอบในการกลั่นแกล้งคนรวมไปถึงกลั่นแกล้งเดเนบ อิมาจินคู่หูของตน ทั้งการทุบต่อย เตะตี หรือแม้แต่ไถเงิน (เนื่องจากการใช้เงินฟุ่มเฟือยของเขา ทำให้กระเป๋าสตางค์และเงินจึงอยู่ในความดูแลของเดเนบ) แต่มีข้อเสียคือ เป็นคนเอาแต่ใจตนเอง (มากกว่าริวทารอส) ชอบใช้กำลังเมื่อไม่พอใจ ปากร้ายได้ทุกเวลา งอนเหมือนเด็ก เมื่อถึงเวลาอาหารก็จะกินได้หมดยกเว้น เห็ดหอม
      ซากุราอิ ยูโตะ (อนาคต)
      ซากุราอิ ยูโตะ (อนาคต) (桜井侑斗 )
      ชายหนุ่มลึกลับผู้สวมหมวก 2 ชั้น และผ้าคลุมยาวสีน้ำตาลครีม ในอดีตเป็นแฟนของโนงามิ ไอริ (โดยมีเรียวทาโร่ เป็นตัวเชื่อมความสัมพันธ์) แต่ได้หายสาบสูญไปในระหว่างที่ กำลังพายเรือในทะเล และเป็นเหตุให้ ไอริ ช็อคกับเหตุการณ์จนความจำเสื่อม
      ซากุราอิ ยูโตะ (ชายลึกลับ) แท้จริงแล้วเป็นซากุราอิ ยูโตะในอนาคต และเขาก็จะปรากฏตัวทุกครั้งที่อิมาจินย้อนอดีตและไม่มีใครรู้ว่ามาได้อย่างไร (มีข้อสันนิษฐานว่าหายตัวไปในกาลเวลาได้เองตามใจคิด) ที่รู้ว่าอิมาจินย้อนเวลาตอนไหนอาจเกี่ยวข้องกับความจำเมื่อตอนเป็นวัยหนุ่ม
      ในอนาคต ซากุราอิ ยูโตะ ได้ทำสัญญากับเดเนบ ในขณะที่ต่อสู้กับอิมาจิน โดยข้อเสนอการทำสัญญาของเขาคือ การที่เดเนบช่วยย้อนอดีตของไปช่วยเหลือและเป็นเพื่อนกับตนในช่วงวัยเยาว์ ซึ่งเดเนบได้ตกลงกับข้อเสนอนี้และทำให้เดเนบกลายเป็นเพื่อนสนิทของซากุราอิ ยูโตะ ในที่สุด

      อิมาจิน

      ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ den-o 
        อิมาจิน เป็นชื่อเรียกสิ่งมีชีวิตรูปร่างคล้ายมนุษย์
          ชื่ออิมาจิน มาจากคำว่า Imagine แต่การออกเสียงจะเป็นการออกเสียงสำเนียงญี่ปุ่น
            ลักษณะเด่นของอิมาจิน คือ มีร่างคล้ายกับมนุษย์แต่คล้ายคลึงกับนาฬิกาทราย โดยส่วนหัวถึงลำตัวจะอยู่ตำแหน่งส่วนเอว-เท้า และ ส่วนเอว-เท้าจะถูกตำแหน่งตรงข้าม ,สีของร่างกายเริ่มแรกจะเป็นสีขาวคล้ายทรายขาว เรียกว่า ร่างทราย และเมื่อได้ทำสัญญากับมนุษย์ หรือ ทำการสิงร่าง อิมาจินตนนั้นจะรูปร่างมีสีของร่างกายตามจินตนาการของคนที่ได้สิงร่างคนๆนั้นเป็นคนแรก
              อิมาจิน มีความต้องการที่จะใช้ร่างมนุษย์ในการทำลายโลก โดยมาในรูปแบบการทำสัญญาและใช้คำพูดเชิญชวนในการหลอกล่อทำสัญญา โดยการทำสัญญานั้นจะใช้การดึงความทรงจำของคนๆนั้นที่เกี่ยวข้องกับความต้องการที่ขอไปและอาศัยจุดอ่อนของคนๆนั้นที่เกี่ยวข้องการทำสิ่งผิดพลาดในอดีตมาเป็นเครื่องมือในการทำสัญญา เมื่อทำสัญญาเสร็จจะใช้มนุษย์คนๆนั้นเป็นประตูในการเดินทางไปยังอดีตของคนๆนั้น
                แต่ถึงแม้อิมาจินจะมีความชั่วร้ายอยู่ กลับมีอิมาจินจำนวนหนึ่งที่มีนิสัยดี คล้ายกับสังคมมนุษย์
                  เมื่ออิมาจินบาดเจ็บสามารถฟื้นตัวจากร่างของคนที่ทำสัญญาได้ แต่ก็มีจุดอ่อนคือเมื่อทำสัญญากับใคร แล้วคนที่ทำสัญญานั้นเกิดลืมเลือนไปที่ละส่วน อิมาจิจะค่อยๆสลายไป ในกรณีที่คนทำสัญญาความจำเสื่อม อิมาจินจะมีร่างขึ้นมาเพราะการทำสัญยานั้นขาดตอนไป แต่ถ้ากลับมาจำได้ก็จะไม่เป็นไร แต่เมื่อคนทำสัญญาบอกความต้องการกับอิมาจิน อิมาจินจะมีร่างชั่วคราม แต่เมื่อความต้องการของคนทำสัญญาสำเร็จผลก็จะทำให้อิมาจินมีร่างถาวร
                    สิ่งที่อิมาจินปรารถนาคือ การครอบครองร่างของผู้ที่มีจุดพิเศษ ซึ่งจะทำให้อิมาจินตนนั้นมีพลังพิเศษขึ้นมา พลังพิเศษที่อิมาจินต้องการ ประกอบไปด้วย
                      การไม่ถูกสลายไปในการเวลา
                        การมีชีวิตอันเป็นนิรันดร์
                          สามารถทำลายช่วงเวลาได้อย่างอิสระ


                          เดนโอ ร่างต่างๆ

                          Den-O-sword


                          เดนโอ ซอร์ดฟอร์ม
                          ซอร์ดฟอร์ม
                          เป็นร่างที่เกิดจาก แพลทฟอร์ม+โมโมทารอส ทำให้เกิดร่างซอร์ดฟอร์มขึ้นมา ใช้เดนกัชเชอร์ รูปแบบดาบเป็นอาวุธ โดยมากมักจะใช้ซอร์ดฟอร์มเป็นร่างหลัก
                          ซอร์ดฟอร์ม เป็นร่างที่เหมาะกับการต่อสู้ทุกรูปแบบ แต่มีจุดอ่อนตรงที่ไม่สามารถสู้ในน้ำได้ เนื่องจากโมโมทารอส ไม่ถนัดการต่อสู้ในน้ำ
                          ท่าไม้ตาย เอ็กซ์ตรีมสแลช แต่เจ้าตัวมักจะเรียกว่า ท่าไม้ตาย (ตามด้วยตัวเลข) เสียมากกว่า
                          โดยแบ่งเป็น 6 ท่า ได้แก่ ท่าไม้ตายภาค 1 (เป็นการใช้เดนกัชเชอร์ โจมตีใส่อิมาจินโดยไม่ปล่อยใบมีด) ท่าไม้ตายภาค 2 (เป็นการใช้เดนกัชเชอร์ โจมตีอิมาจินโดยปล่อยใบมีดสีแดง) ,ท่าไม้ตายภาค 2 แดช (ดัดแปลงจากภาค 2 โดยโจมตีอิมาจินด้วยการวิ่งเข้าหาอิมาจินพร้อมกับฟันดาบไปในตัว) ,ท่าไม้ตายภาค 3 (ดัดแปลงจากภาค 2) ,ท่าไม้ตายภาค 5 (ดัดแปลงจากภาค 2 โดยเพิ่มระยะการโจมตีด้วยใบมีดให้มีประสิทธิภาพมากกว่าเดิม) และ ท่าไม้ตาย ไฟนอล เวอร์ชัน (เป็นการส่งใบมีดออกไปโจมตีศัตรูจากนั้น ใบมีดจะลอยไปหาอิมาจินตัวอื่นๆตั้งแต่ คินทารอส ->อุราทารอส ->ริวทารอส ->ชิ๊ค ->เซโรนอส เวก้าฟอร์ม เพื่อสะสมพลัง จากนั้น ใบมีดจะกลับมาที่เดนกัชเชอร์ และใช้ท่าไม้ตายภาค 1 เป็นการปิดฉากการโจมตี โดยท่าไม้ตายนี้มีลักษณะคล้ายกับ โกเรนเจอร์เฮอร์ริเคน ของโกเรนเจอร์ ที่ใช้ลูกบอลในการสะสมพลังก่อนที่จะปิดฉาdด้วยการยิงลูกบอล
                          นอกจากนี้ยังมีท่าไม้ตายที่เป็นลูกเตะ โดยมีชื่อว่า (ลูกเตะ)สุดยอดท่าไม้ตาย ( โดยเป็นการเตะสปินคิ๊กแบบจระเข้ฟาดหางด้วยขาขวาจำนวน2รอบ โดยท่าไม้ตายจะคล้ายกับไรเดอร์คิ๊กของมาสค์ไรเดอร์คาบูโตะและมาสค์ไรเดอร์กาทัค ที่มีการตเตะแบบจระเข้ฟาดหางเช่นกัน)

                          เดนโอ ร็อดฟอร์ม


                          Den-O-rodform
                          เป็นร่างที่เกิดจาก แพลทฟอร์ม+อุราทารอส ทำให้เกิดร่างร็อดฟอร์มขึ้นมา ใช้เดนกัชเชอร์ รูปแบบกระบองเป็นอาวุธ นอกจากนี้ยังมีท่าไม้ตายเป็น ลูกเตะไรเดอร์คิก อีกด้วย
                          ร็อดฟอร์ม มีจุดเด่นด้านการต่อสู้ในน้ำ และ การต่อสู้ที่รวดเร็ว
                          ท่าไม้ตาย เดนไรเดอร์คิก

                          เดนโอ แอ็กซ์ฟอร์ม

                          Den-O-axeform
                          เป็นร่างที่เกิดจาก แพลทฟอร์ม+คินทารอส ทำให้เกิดร่างแอ็กซ์ฟอร์มขึ้นมา ใช้เดนกัชเชอร์ รูปแบบขวาน เป็นอาวุธ
                          แอ็กซ์ฟอร์ม มีจุดเด่นด้านการต่อสู้ที่ใช้พละกำลังมหาศาล
                          ท่าไม้ตาย ไดมามิค ช็อพ

                          เดนโอ กันฟอร์มDEn-O-gun

                          ป็นร่างที่เกิดจาก แพลทฟอร์ม+ริวทารอส ทำให้เกิดร่างกันฟอร์ม ใช้เดนกัชเชอร์ รูปแบบปืน เป็นอาวุธ
                          กันฟอร์ม มีจุดเด่นด้านการต่อสู้เสมือนกำลังเต้นฮิพฮอพ โดยมาก การยิงของกันฟอร์ม มักจะยิงไม่ตรงเป้าหมายและยิงมั่ว เป็นประจำ แต่อนุภาพการทำลายนั้นถือว่าอยู่ในขั้นรุนแรง
                          ท่าไม้ตาย ไวลด์ช็อต

                          เดนโอ วิงค์ฟอร์ม

                          Den-O-wing
                          เป็นร่างที่เกิดจาก ชิ๊ค (Sieg) ทำให้เกิดร่างวิงค์ฟอร์ม ขึ้นมา มีลักษณะคล้ายกับซอร์ดฟอร์ม แต่มีสีลำตัวที่ต่างออกไป โดยสีลำตัวของวิงค์ฟอร์มจะเป็นสีทอง ลวดลายที่หัวไหล่มีการเพิ่มลวดลายปีกเข้าไปเล็กน้อย ใช้เดนกัชเชอร์ รูปแบบขวานมือ และ บูมเมอร์แรง เป็นอาวุธ
                          นอกจากนี้ วิงค์ฟอร์ม ยังสามารถสยายปีกเหล็ก ขนาดใหญ่ ออกมาด้านหลังได้ แต่การสยายปีกนั้นไม่ใช่เป็นการบินแต่อย่างใด
                          วิงค์ฟอร์ม มีจุดเด่นด้านการต่อสู้ในท่วงท่าสง่างามดุจเจ้าชายในเทพนิยายแต่แฝงไปด้วยการโจมตีที่รวดเร็วและพลังทำลายล้างสูง
                          ท่าไม้ตาย รอยัล สแมช (ใช้เดนกัชเชอร์ รูปแบบขวานมือและบูมเมอร์แรง โจมตีใส่อิมาจินพร้อมกันเป็นรูปกากบาท หรือ ขว้างใส่อิมาจินพร้อมกัน)

                          Climax Form
                            เดนโอ ไคลแม็กซ์ฟอร์ม
                              กิดจากการรวมตัวของ เรียวทาโร่ (เดนโอ) , เคทารอส และ 4 อิมาจิน (โมโมทารอส, อุราทารอส, คินทารอส, ริวทารอส) จนเกิดร่างใหม่ขึ้นมา
                                ไคลแม็กซ์ฟอร์ม ใช้ร่างซอร์ดฟอร์ม และ แพลทฟอร์ม เป็นร่างหลักของการเปลี่ยนร่าง และฟอร์มอื่นๆ (ร็อด, แอ็กซ์ และ กัน) จะปรากฏในลักษณะหน้ากาก ติดตั้งในส่วนต่างๆของร่าง
                                  ซอร์ดฟอร์ม จะอยู่ที่หน้ากาก (ส่วนหัว) ของไคลแม็กซ์ฟอร์ม ใช้เป็นตัวหลักของร่าง
                                    ร็อดฟอร์ม จะอยู่ที่หัวไหล่ขวา ของไคลแม็กซ์ฟอร์ม ใช้เป็นตัวหลักในการใช้ท่าบอยซเตอร์ คิก
                                      แอ็กซ์ฟอร์ม จะอยู่ที่หัวไหล่ซ้าย ของไคลแม็กซ์ฟอร์ม ใช้ตัวหลักในการใช้ท่าบอยซเตอร์ ช็อป
                                            กันฟอร์ม จะอยู่ที่หน้าอกของไคลแม็กซ์ฟอร์ม ใช้ยิงในการยิงบอยซเตอร์ เช้าท์
                                              ลวดลายบนตัวไคลแม็กซ์ฟอร์ม มีลักษณะคล้ายรางรถไฟ เรียกว่า "เดนเรล" ใช้ในการเชื่อมฟอร์ม (หน้ากาก) ต่างๆที่ปรากฏบนร่างกายไคลแม็กซ์ฟอร์ม (ยกเว้นซอร์ดฟอร์มที่อยู่ส่วนหัว) ไปยังส่วนต่างๆของร่างกายเพื่อไว้ใช้ในการเผด็จศึกอิมาจิน
                                                รูปแบบการนำฟอร์ม (หน้ากาก) ต่างๆ ไปยังส่วนต่างๆของร่างกายมีลักษณะคล้ายกับการเชื่อมขบวนรถไฟ ซึ่งการเชื่อมฟอร์ม (หน้ากาก) ต่างๆ นั้นจะทำให้เกิดโหมดรูปแบบการต่อสู้ที่แตกต่างกัน เช่น
                                                  ไคลแม็กซ์ฟอร์ม คิกโหมด นำขบวนโดย ร็อด,กันและ แอ็กซ์ โดย (หน้ากาก) ร็อดทำหน้าที่เป็นหัวขบวน ใช้ในการต่อสู้รูปแบบเตะ มีท่าไม้ตายคือ บอยซเตอร์ คิก
                                                    ไคลแม็กซ์ฟอร์ม พั๊นช์โหมด นำขบวนโดย แอ็กซ์ ,กัน และ ร็อด โดย (หน้ากาก) แอ็กซ์ ทำหน้าที่เป็นหัวขบวน จอดเทียบท่าที่มือซ้าย (หน้ากาก) กัน จอดเทียบท่าที่แขนซ้าย และ (หน้ากาก) ร็อด จอดเทียบท่าที่หัวไหล่ซ้าย ใช้ในการต่อสู้รูปแบบการชก มีท่าไม้ตายคือ บอยซเตอร์ พั๊นช์
                                                      นอกจากนี้ ยังสามารถใช้เดนกัชเชอร์ ซอร์ดโหมด และท่าไม้ตาย เอ็กซ์ตรีม สแลช ของซอร์ดฟอร์มได้ (แต่โมโมทารอส กลับเรียกว่า ท่าไม้ตาย ไคลแม็กซ์ เวอร์ชัน แทน)
                                                      น้ำหนัก: 119 กก.
                                                      พลังหมัด: 8 ตัน
                                                      พลังเตะ: 10 ตัน
                                                       Chou Den-O Ultimate(12)เดนโอ โชว ไคลแม็กซ์ฟอร์ม
                                                      เกิดจากการรวมตัวของ เรียวทาโร่ (เดนโอ) เคทารอส และ 5 อิมาจิน (โมโม,อุรา,คิน,ริว และ ชิ๊ค) จนเกิดร่างใหม่ขึ้นมา
                                                      โชว ไคลแม็กซ์ฟอร์ม เป็นร่างสุดยอดอีกแบบ ที่ปรากฏตัวใน โชว มาสค์ไรเดอร์เดนโอ & ดีเคด NEO เจเนเรชั่น เดอะมูวี่ โดยมีพื้นฐานมาจากไคลแม็กซ์ฟอร์ม แต่ได้มีการรวมชิ๊คเข้าไว้กับไคลแม็กซ์ฟอร์มทำให้มีพลังต่อสู้และพลังในการบินเพิ่มขึ้น รายละเอียดจะเพิ่มขึ้นมาในบางจุดเช่น
                                                      วิงค์ฟอร์ม จะอยู่ที่ด้านหลังของไคลแม็กซ์ฟอร์ม ปีกมีทั้งหมด ข้างล่ะ 4 ปีก รูปแบบปีกมาจากหน้ากากวิงค์ฟอร์ม แต่มีขนาดใหญ่
                                                      บนหน้ากากโชว ไคลแม็กซ์ฟอร์ม เพิ่มสัญลักษณ์สีขาวรูปปีก โดยอยู่หน้าสุด ต่อด้วยสัญลักษณ์ลูกศรสีม่วงของกันฟอร์ม สีเหลี่ยมสีเหลืองของแอ็กซ์ฟอร์ม และ หกเหลี่ยมของร็อดฟอร์ม ตามลำดับ
                                                      ท่าไม้ตายของโชว ไคลแม็กซ์ฟอร์ม นั้นใช้ท่าไม้ตายแบบเดียวกับไคลแม็กซ์ฟอร์ม แต่เพิ่มประสิทธิภาพของพลังการโจมตีให้มากขึ้น เช่น โชว บอยซเตอร์ คิก ที่มีพลังในการเตะมากขึ้นอีก 50 ตัน แต่ไม่มีการเปลี่ยนคิกโหมด แต่อย่างใด


                                                      เดนโอ ไลเนอร์ฟอร์ม

                                                      Den-O-Liner
                                                      เกิดจากการรวมตัวของ เรียวทาโร่ ,เคทารอส และ 4 อิมาจิน (โมโม, อุรา, คิน, ริว) ในอีกรูปแบบหนึ่ง โดย 4 อิมาจิน ได้มอบพลังของตนเองจากร่างทราย (ร่างก่อนเข้าสิง) ก่อตัวเป็นพลังใหม่ในรูปแบบดาบ (เดนคาเมนซอร์ด) โดยร่างนี้เรียวทาโร่เป็นผู้ควบคุมร่างเพียงคนเดียว แต่สามารถใช้พลังของอิมาจินผ่านเดนคาเมนซอร์ด เพื่อดึงพลังแฝงของเรียวทาโร่ออกมาใช้ เปรียบได้กับเป็นร่างพัฒนาของแพลทฟอร์ม
                                                      ท่าไม้ตายคือ เดนฉะ กิริ (ฟูลธรอทเทิล เบรก)

                                                      มาสค์ไรเดอร์คิบะ

                                                      KMKiva
                                                      มาสค์ไรเดอร์คิบะ เป็นชื่อของ ภาพยนตร์ญี่ปุ่น แนว โทคุซัทสึ ในซีรีส์ มาสค์ไรเดอร์ ประจำปี 2008 เป็นลำดับที่18 โดย โตเอะ คัมปะนี และ อิชิโนะโมะริ โปรดักชั่นส์ เริ่มออกอากาศวันที่ 27 มกราคม ค.ศ. 2008 ต่อจากตอนสุดท้ายของ "มาสค์ไรเดอร์เดนโอ" โดยออกอากาศทางทีวีอาซาฮี ในช่วง ซูเปอร์ฮีโร่ ไทม์ ร่วมกับ "เอนจิน เซนไท โกออนเจอร์" โดยธีมหลักของซีรีส์นี้เป็นแนวสยองขวัญ โดยให้ภาพลักษณ์แก่คิบะเป็น แวมไพร์ สโลแกนประจำซีรีส์นี้คือ "จงตื่นขึ้น! ปลดปล่อยพันธนาการแห่งโชคชะตา" (ญี่ปุ่นWake up!宿命(さだめ)の鎖を解き放て Ueiku appu! Sadame no kusari o tokihanate ?) โดยตอนแรกที่ออกอากาศนั้นได้มีการระลึกวันคล้ายวันเกิดปีที่ 70 ของ อิชิโนะโมะริ โชทาโร่ ในซีรีส์อีกด้วย
                                                      มาสค์ไรเดอร์คิบะออกอากาศเมื่อวันที่ 27 มกราคม ค.ศ. 2008 ถึงวันที่ 18 มกราคม ค.ศ. 2009 โดยออกอากาศทั้งหมด 48 ตอนและมีภาพยนตร์ตอนพิเศษอีก 2 ตอนคือ มาสค์ไรเดอร์เดนโอ & คิบะ ไคลแม็กซ์เดกะ (劇場版 仮面ライダー電王&キバ クライマックス刑事) และ มาสค์ไรเดอร์คิบะ ราชาแห่งปราสาทนรก (劇場版 仮面ライダーキバ 魔界城の王)
                                                      ในประเทศไทย ออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์โมเดิร์นไนน์เริ่มวันที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 255412 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555 โดยออกอากาศทุกวันเสาร์เวลา 7:35 น. และได้กลับมาออกอากาศที่ช่องการ์ตูนคลับอีกครั้งในปี 2556 ทางช่องการ์ตูน

                                                      เนื้อเรื่อง

                                                      ในปี ค.ศ. 1986 เหล่าแฟงไกอาได้ออกอาละวาดโจมตีมนุษย์ เพื่อดูดกลืนวิญญาณมนุษย์เป็นอาหารจึงทำให้เกิดองค์กร นักล่าแฟงไกอา นาม กลุ่มฟ้าสีครามสดใส เพื่อทำหน้าที่ปกป้องมนุษย์จากการาละวาดของแฟงไกอา ในอีก 22ปี ต่อมา ปีค.ศ. 2008 แฟงไกอาในอดีต ได้เริ่มกลับมาอาละวาดซ้ำรอยอีกครั้ง ทำให้เหล่านักล่าแฟงไกอา ต้องทำหน้าที่อีกครั้งอีกครั้ง แต่ในขณะเดียวกัน ได้ปรากฏบุรุษปริศนานาม มาสค์ไรเดอร์คิบะ ผู้ปราบปรามเหล่าแฟงไกอาที่ชั่วร้าย

                                                      เอ็มเพอร์เรอร์ฟอร์ม เกิดจากการที่ ทัซซึล็อต ปรากฏตัวขึ้นอย่างกะทันหันเพื่อเพิ่มพลังให้กับคิบะโดยเฉพาะ จากนั้น ทัซซึล็อต จะทำการปลดผนึกโซ่ที่เกราะไหล่ทั้ง2ข้าง เกราะไหล่ที่ถูกปลดผนึกจะกลายเป็นปีกแสงสีทอง และมีค้างคาวแสงจำนวนมาก บินออกมาจากปีกแสงเพื่อทำการเพิ่มพลัง ทัซซึล็อต บินไปประกบคิบะที่แขนซ้าย ค้างคาวแสงบินไปประกบเกราะส่วนต่างๆของคิบะ เพื่อเปลี่ยนร่างเป็นเอ็มเพอร์เรอร์ฟอร์ม โดยมีผ้าคลุมหลังอันเกิดจากเปลวเพลิงปรากฏออกมาพร้อมกัน
                                                      • ความสูง: 2.10 เมตร
                                                      • น้ำหนัก: 150 กก.
                                                      • พลังหมัด: 18 ตัน
                                                      • พลังเตะ: 32 ตัน
                                                      • ท่าไม้ตาย ( เอ็มเพอร์เรอร์ มูน เบรก ) : 150 ตัน
                                                      • ระดับการกระโดดสูง: 180 เมตร
                                                      • ระดับการวิ่ง: 100 เมตร/ 3 วินาที
                                                      รูปภาพที่เกี่ยวข้องคิบะ เอ็มเพอร์เรอร์ฟอร์ม มีพลังในการทำลายล้างสูงทั้งพลังหมัดและพลังเตะ โดยเฉพาะพลังเตะมีมากถึง150ตัน
                                                      เมื่อใช้ท่าตาย คิบะ จะดึงคันโยกที่นอสีเงินทัซซึล็อต เพื่อเลือกท่าไม้ตายที่เหมาะสมกับแฟงไกอา โดยมีทั้งหมด4แบบได้

                                                      โดกาบาคิเอ็มเพอร์เรอร์ฟอร์มDoGaki

                                                      โดกาบาคิเอ็มเพอร์เรอร์ฟอร์ม เป็นร่างที่7 ของคิบะ โดยปรากฏตัวเฉพาะในตอน มาสค์ไรเดอร์คิบะ แอดเวนเจอร์ แบทเทิล DVDซึ่งเกิดจากการเพิ่มพลังโดยใช้โดกาบาคิฟอร์มเรียกทัซซึล็อตมารวมพลังอีกขั้น ทำให้เกิดร่างที่มีพลังเหนือกว่าโดกาบาคิฟอร์มหลายเท่า สามารถใช้ใช้อาวุธจากทั้ง3ฟอร์ม (การูรู, แบชเชอร์, โดกกา) หรือจะใช้ท่าไม้ตายประเภทลูกเตะได้อย่างคล่องแคล่วและรุนแรงกว่าเดิมหลายเท่า
                                                      ลักษณะพิเศษคือ เกราะหน้าอกเป็นโดกกาฟอร์ม เกราะหัวไหล่และเกราะต้นแขนขวาเป็นแบชเชอร์ฟอร์ม เกราะหัวไหล่และเกราะต้นแขนซ้ายเป็นการูรู และส่วนที่เหลือเป็นรูปแบบของเอ็มเพอร์เรอร์ฟอร์ม เมื่อใช้อาวุธของแต่ละฟอร์ม ทัซซึล็อตจะไม่ทำการเชื่อมต่อกับอาวุธแต่อย่างใด
                                                      ท่าไม้ตายของ โดกาบาคิเอ็มเพอร์เรอร์ฟอร์ม คือ โดกาบาคิเอ็มเพอร์เรอร์ เบรกเกอร์ ซึ่งเป็นท่าไม้ตายเดียวกับ เอ็มเพอร์เรอร์ มูน เบรก แต่มีพลังทำลายล้างที่มากกว่า
                                                      Decadeมาสค์ไรเดอร์ดีเคด  เป็นชื่อของ ภาพยนตร์ญี่ปุ่น แนว โทคุซัทสึ ในซีรีส์ มาสค์ไรเดอร์ ประจำปี 2009 เป็นลำดับที่ 19 โดย โตเอะ คัมปะนี และ อิชิโนะโมะริ โปรดักชั่นส์ เริ่มออกอากาศเดือน 25 มกราคม ค.ศ. 2009 จนถึงวันที่ 30 สิงหาคมค.ศ. 2009 โดยออกอากาศทางทีวีอาซาฮี ในช่วง ซูเปอร์ฮีโร่ ไทม์ โดยเป็นการฉลองครบรอบ 10 ปีของการฉายมาสค์ไรเดอร์ยุค 2000 (ยุคเฮย์เซย์) นับตั้งแต่การออกอากาศครั้งแรกของมาสค์ไรเดอร์คูกะจนถึงมาสค์ไรเดอร์คิบะ และกลับมาออกอากาศอีกครั้งเมื่อวันที่ 4 ตุลาคม ค.ศ. 2009 ออกอากาศทุกวันอาทิตย์เวลา 6.30 น. และสิ้นสุดออกอากาศเมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม ค.ศ. 2010 ออกอากาศทั้งหมด 31 ตอน และ ตอนพิเศษที่ฉายทางโรงภาพยนตร์ทั้งหมด 3 ตอนด้วยกัน ประกอบไปด้วย โชว มาสค์ไรเดอร์เดนโอ & มาสค์ไรเดอร์ดีเคด NEO เจเนเรชั่น ศึกเรือยักษ์โอนิงาชิมะ (劇場版 超・仮面ライダー電王&ディケイド NEO ジェネレーションズ 鬼ヶ島の戦艦) มาสค์ไรเดอร์ดีเคด ออลไรเดอร์ ปะทะ ไดช็อกเกอร์ (劇場版 仮面ライダーディケイド オールライダー対大ショッカー) , มาสค์ไรเดอร์ X มาสค์ไรเดอร์ W & ดีเคด MOVIE ไทเซ็น 2010 (仮面ライダーX 仮面ライダー W&ディケイド MOVIE大戦2010)[1]


                                                      ชื่อของมาสค์ไรเดอร์ดีเคด มีอีกชื่อหนึ่งคือ MASKED RIDER DCD

                                                      ในประเทศไทยจัดจำหน่ายในรูปแบบ VCD และ DVD โดย ภาคภาพยนตร์พิเศษตอน โชว มาสค์ไรเดอร์เดนโอ & มาสค์ไรเดอร์ดีเคด NEO เจเนเรชั่น ศึกเรือยักษ์โอนิงาชิมะ เป็นลิขสิทธิ์ของ DEX , มาสค์ไรเดอร์ดีเคด ออลไรเดอร์ ปะทะ ไดช็อกเกอร์ เป็นลิขสิทธิ์ของ Rose และ มาสค์ไรเดอร์ X มาสค์ไรเดอร์ W & ดีเคด MOVIE ไทเซ็น 2010 เป็นลิขสิทธิ์ของ ดรีมวิชั่น ในประเทศไทยออกอากาศทางช่อง โมเดิร์นไนน์ทีวี ในปี พ.ศ. 2555 และออกอากศทางช่องการ์ตูนคลับแชแนล ในปี พ.ศ. 2554

                                                      จุดประสงค์

                                                      คอนเซ็ปท์ของมาสค์ไรเดอร์ดีเคด เป็นการนำคอนเซ็ปท์ของมาสค์ไรเดอร์ในยุคโชวะ (คาเมนไรเดอร์ 1 - BLACK RX) มาปรับปรุงใหม่ โดยเป็นการพบกันของเหล่าไรเดอร์ยุค 2000 และร่วมมือกำจัดศัตรูที่หมายจะยึดครองโลก ซึ่งเป็นคอนเซ็ปท์การพบของเหล่าไรเดอร์ในแต่ละเรื่องนั้นเป็นแนวคิดดั้งเดิมของมาสค์ไรเดอร์ ที่ในยุค 2000 ไม่ได้มีการนำเสนอผ่านทางโทรทัศน์แต่อย่างใด ผสมกับ การต่อสู้ด้วยการ์ดเกมส์ซึ่งเป็นครั้งที่ 3 ของมาสค์ไรเดอร์ ที่ได้มีการนำรูปแบบการต่อสู้ด้วยการ์ดเกมส์ภายหลังจากที่ได้รับความนิยมใน มาสค์ไรเดอร์ริวคิ และ มาสค์ไรเดอร์เบลด มาแล้ว
                                                      นอกจากนี้ ยังมีจุดประสงค์แอบแฝงโดยโตเอะ คัมปะนีและบริษัท บันได ได้ร่วมกันผลิตขึ้นมาพร้อมๆกับมาสค์ไรเดอร์ดีเคดคือการเปิดตัว คาเมนไรเดอร์แบทเทิล กัมบาไรด์ ซึ่งเป็นเกมส์ต่อสู้แนวอาเขตโดยใช้การ์ดที่มีแถบบาร์โคดเป็นอุปกรณ์ในเดินเครื่อง (คล้ายกับการเล่นมุชิคิง) ซึ่งจะปรากฏในมาสค์ไรเดอร์ดีเคดในทุกๆตอนที่นำเสนอ

                                                      เนื้อเรื่อง

                                                      โลกที่มีเหล่าไรเดอร์แห่งยุคเฮยเซย์ (ยุค 2000) คอยปกป้องคุ้มครองอยู่นั้น แต่เดิมได้แยกออกมาเป็นมิติคู่ขนานทั้งหมด 9 มิติ และเป็นคู่ขนานกับโลกใบหลักเสมอมา จนกระทั่งเหตุการณ์การพุ่งชนของโลกทั้ง 9 ใบ เกิดขึ้น ทำให้เส้นกั้นมิติในแต่ละมิติของโลกทั้ง 9 เกิดรอยร้าว และส่งผลให้ศัตรูของไรเดอร์ในแต่ละมิติเกิดความสับสนและอาละวาดข้ามมิติขึ้น ทำให้เกิดไรเดอร์ผู้เชื่อมมิติขึ้นมาเพื่อสร้างความสมดุลให้กับโลกทั้ง 9
                                                      ฮิคาริ นัตสึมิ หลานสาวเจ้าของร้านถ่ายรูป Hikari Studio ได้ฝันเห็นไรเดอร์ทั้งหมดในยุคเฮย์เซย์ ทำสงครามกับใครคนหนึ่ง ท่ามกลางสงครามอันร้อนระอุ นัตสึมิ ได้เห็น ไรเดอร์ผู้สร้างสรรค์และทำลาย ผู้มีออร่าแสงสีชมพู ไรเดอร์คนนั้นได้ทำการยุติสงครามด้วยเพียงการโจมตีเพียงเล็กน้อยของเขา , นัตสึมิ รู้จักเขาได้เป็นอย่างดี และรู้ว่าเขาคือ มาสค์ไรเดอร์ ดีเคด
                                                      นัตสึมิ ที่ฝันประหลาดได้ตื่นขึ้นมาจากภวังค์ และพบกับความวุ่นวายเนื่องจากผลงานของช่างภาพประจำร้านอย่างคาโดยะ สึคาสะ ชายหนุ่มนิสัยประหลาด ที่มักถ่ายภาพตามอารมณ์ของเขาแทนที่จะทำตามคำสั่งของลูกค้า ทำให้นัตสึมิต้องออกไปต่อว่าสึคาสะทันที แต่จู่ๆเหตุการณ์ประหลาดที่เกิดขึ้นรอบตัวนัตสึมิได้เกิดขึ้น ทำให้นัตสึมิและสึคาสะต้องเข้าไปพัวพันกับเหตุการณ์อาละวาดของศัตรูของไรเดอร์ในมิติต่างๆ นั่นเป็นสิ่งเป็นเรื่องบังเอิญ หรือ การจงใจของใครบางคน สิ่งเหล่านี้มีเพียงสึคาสะและนัตสึมิ เท่านั้นที่จะหาคำตอบให้กับตนเองและคำตอบของโลกใบนี้ให้ได้

                                                      ตัวละครหลัก

                                                        มาสค์ไรเดอร์ ดีเคด
                                                         / คาโดยะ สึคาสะ  แสดงโดย อิโนอุเอะ มาซาฮิ
                                                        โระ 
                                                      ช่างภาพหนุ่มผู้มีนิสัยรักอิสระและไม่แยแสใคร เขาได้พบสิ่งผิดปกติในรูปภาพและถูกดึงเข้าไปพัวพันกับการต่อสู้ของเหล่าไร เดอร์ โดยการชักจูงของคุเรไน วาตารุ
                                                      มาสค์
                                                      ไรเดอร์คิบาระ
                                                       / ฮิคาริ นัตสึมิ  แสดงโดย โมริ คันนะ
                                                      ดูบทความหลักที่: มาสค์ไรเดอร์ คิบาระ
                                                      หลานสาวเจ้าของร้านถ่ายภาพ Hikari Studio ผู้จ้างวานให้สึคาสะเป็นช่างภาพประจำร้าน มักหัวเสียกับสึคาสะบ่อยครั้ง เนื่องจากการทำงานของสึคาสะ และมักลงโทษสึคาสะด้วยการจี้จุดบริเวณต้นคอขวา ทำให้สึคาสะหัวเราะไม่หยุดจนกว่าจะเอ่ยคำขอโทษ[1][2]
                                                      ฮิคาริ มีความเกี่ยวข้องบางอย่างกับโลกมิติทั้ง 9 และ มาสค์ไรเดอร์ในโลกมิติทั้ง 9 และเป็นผู้ที่ได้เห็นนิมิตที่ดีเคดทำลายล้างเหล่าไรเดอร์
                                                      ฮิคาริ เอย์จิโร่
                                                       / ดร.นิชิงามิ  / อิกะเดวิล  แสดงโดย อิชิบาชิ เรนจิ 

                                                      เจ้าของร้านถ่ายภาพ Hikari Studio เป็นคนใจดี คอยประนีประนอมให้กับลูกค้าที่มีปัญหาเกี่ยวกับรูปภาพ รู้เรื่องการมีอยู่ของโลกทั้ง 9 โดยมีภาพวาดเป็นประตูเข้าสู่โลกทั้ง 9
                                                      ตัวตนจริงๆของเอย์จิโร่คือดร.นิชิงามิหนึ่งในผู้นำของไดช็อกเกอร์โดยที่ตนไม่รู้มาก่อน
                                                      มาสค์ไรเดอร์ ดิเอนด์
                                                       / ไคโต ไดคิแสดงโดย โททานิ คิมิโตะ 

                                                      ดูบทความหลักที่: มาสค์ไรเดอร์ ดิเอนด์
                                                      ชายหนุ่มผู้พเนจรเคยรู้จักกับสึคาสะมาก่อนที่สึคาสะจะความจำเสื่อม ไดคิเป็นจอมโจรนักล่าสมบัติต่างมิติ โดยเขาเดินทางไปยังโลกต่างมิติต่างๆ เพื่อตามล่าสมบัติล้ำค่าของมิตินั้นโดยวิถีทางเพื่อให้ได้ของที่ต้องการโดย ไม่สนว่าทางนั้นจะ ผิด หรือ ถูก ทำให้บางครั้งมักถูกหลอกเรื่องสมบัติที่เขาได้มา
                                                      นายพลโซล / นารุทาคิ  แสดงโดย โอคุดะ ทาสึฮิโตะ 
                                                      ผู้เฝ้ามองการเป็นอยู่ของสึคาสะและไดคิ ในโลกมิติต่างๆ มีความสามารถในการเปิดมิติพร้อมกับส่งไรเดอร์มายังโลกมิติต่างๆ และมีหน้าที่ยุยงให้ไรเดอร์ในโลกมิติทั้งหมด เพื่อกำจัดดีเคดโดยเฉพาะ
                                                      คิบาระ พากย์โดย ซาวาชิโระ มิยูกิ 
                                                      พี่สาวของคิแบท แบท รุ่นที่ 3 สีลำตัวเป็นสีขาว-เงิน ดวงตาสีแดง มีบุษราคัมรูปหัวใจติดอยู่ที่หน้าผาก เป็นผู้ร่วมมือกับนารุทาคิในการกำจัดดีเคด ในโลกแห่งคิบะต่อมาเป็นสปายให้กับนารุทาคิเพื่อตรวจเฝ้ามองการเป็นอยู่ของพวกสึคาสะใน Hikari Studio มีความสามารถใช้พลังย้ายมิติในการส่งไรเดอร์มายังมิติอื่นได้

                                                      ร่างต่างๆ ของมาสค์ไรเดอร์Decade


                                                      ดีเคด ฟอร์ม

                                                      คอมพลีท ฟอร์ม
                                                      ผู้แปลงร่าง  คาโดยะ สึคาสะ
                                                      เพศชาย
                                                      อาวุธไรด์บุคเกอร์
                                                      ส่วนสูง192 ซม.
                                                      น้ำหนัก83 กก.
                                                      พลังหมัด4 ตัน
                                                      พลังเตะ8 ตัน
                                                      พลังกระโดด25 เมตร
                                                      พลังความเร็ว100 เมตร / 6 s
                                                      ท่าไม้ตาย ไดเมนชั่น คิ๊กไดเมนชั่น สแลช ไดเมนชั่น บลาสท์ ,ดีเคด สแลช ดีเคด บลาสท์
                                                      ร่างแปลงของสึคาสะเกิดจากการแปลงร่างของดีเคดไดรเวอร์ โดยใช้การ์ดดีเคดในการแปลงร่าง เมื่อแปลงร่างเป็นดีเคด สึคาสะจะใช้ความสามารถพิเศษที่เขามีอยู่มาประยุกต์เข้ากับการต่อสู้ทำให้การต่อสู้ของดีเคดเป็นไปแบบการต่อสู้เพื่อหยั่งเชิงคู่ต่อสู้และเน้นทักษะเทคนิคการ่ตอสู้มากกว่าจะเป็นการต่อสู้แบบประจัญหน้า นอกจากนี้ ความสามารถอันเป็นเอกลักษณ์เด่นของดีเคดนั้นคือการแปลงร่างเป็นไรเดอร์คนอื่นๆได้เสมือนจริงได้ด้วยการใช้การ์ดมาสค์ไรเดอร์ ดีเคด เงคิโจไท เป็นร่างที่มีจิตใจชั่วร้ายมีพลังทำลายล้างสูง มีลักษณะที่ต่างจากร่างปกติตรงที่มีลายสีดำเกิดขึ้นที่ใบหน้า มีความสามารถพิเศษคือสามารถใช้การ์ดของไรเดอร์คนอื่นๆมาใช้ได้

                                                      คอมพลีท ฟอร์ม

                                                      คอมพลีท ฟอร์ม

                                                      ผู้แปลงร่าง  คาโดยะ สึคาสะ
                                                      เพศ ชาย
                                                      อุปกรณ์เข้าสู่ฟอร์ม เคทัช
                                                      อาวุธ   ไรด์บุคเกอร์เรกกะไดซันโต
                                                      ส่วนสูง 199 ซม.
                                                      น้ำหนัก 102 กก.
                                                      พลังหมัด  12 ตัน
                                                      พลังเตะ   16 ตัน
                                                      พลังกระโดด   50 เมตร
                                                      พลังความเร็ว 100 เมตร / 4 s


                                                      ท่าไม้ตาย       อัลติเมท คิ๊ก ,ไซน์นิ่ง แครช เบิร์นนิ่งเซเบอร์ ชไวโฟรตอน บัสเตอร์ รอยัล สเตรท ฟลัท องเงคิดะ คิชิน คาคุเรย์ ไฮเปอร์ ไรเดอร์ คิ๊ก แม็กซิมั่ม ไฮเปอร์ ไซโคลน ,เดนฉะกิริ เอ็มเพอร์เรอร์ มูน เบรก ไฟนอล ซันแบท ซัน เฮียกกะ เรียวรันไดเมนชั่น ชู๊ดคอมพลีท ฟอร์ม (Complete Form) เป็นร่างที่เกิดจากการเพิ่มพลังโดยใช้ K-Touch เชื่อมต่อกับดีเคด ไดรเวอร์ ทำให้ดีเคด มีพลังในการโจมตีมากขึ้นโดยการใช้ร่างคอมพลีท ฟอร์มนั้นจะต้องใช้การ์ดคาเมนไรด์ ดีเคด คอมพลีท โดยใส่การ์ดลงใน K-Touch กดปุ่มสัญลักษณ์ไรเดอร์ทั้ง 9เมื่อดีเคดใช้ K-Touch ในการเลือกโดยใช้ปุ่มกดตราสัญลักษณ์ของไรเดอร์ต่างๆจะทำให้เกิดสร้างไรเดอร์ร่างสุดยอดขึ้นมาโดยไรเดอร์ตัวนั้นๆออกมาเสมือนจริง โดยเป็นเงาของดีเคด คอมพลีท ฟอร์ม โดยสิ่งที่บ่งบอกถึงการเรียกไรเดอร์รุ่นพี่ออกมาสู้นั้นคือ การ์ดบนเกราะหน้าอกและเกราะหัวไหล่ ทั้ง 2 ข้าง จำนวน 9 ใบ จะเปลี่ยนเป็นรูปของไรเดอร์รุ่นพี่ในร่างสุดยอด
                                                      โดยการ์ดไรเดอร์รุ่นพี่ที่ดีเคด คอมพลีท ฟอร์ม เรียกมาได้แก่
                                                        มาสค์ไรเดอร์คูกะ อัลติเมทฟอร์ม
                                                          มาสค์ไรเดอร์อากิโตะ ไซน์นิ่งฟอร์ม
                                                            มาสค์ไรเดอร์ริวคิ เซอร์ไวว์
                                                              มาสค์ไรเดอร์ไฟซ์ บลาสเตอร์ฟอร์ม
                                                                มาสค์ไรเดอร์เบลด คิงฟอร์ม
                                                                  มาสค์ไรเดอร์อาร์มฮิบิกิ
                                                                    มาสค์ไรเดอร์คาบูโตะ ไฮเปอร์ฟอร์ม
                                                                      มาสค์ไรเดอร์เดนโอ ไลเนอร์ฟอร์ม
                                                                        มาสค์ไรเดอร์คิบะ เอมเพอร์เรอร์ฟอร์ม

                                                                        เมื่อเรียกไรเดอร์รุ่นพี่ออกมาเป็นภาพเสมือนจริง จะทำให้พลังการโจมตีเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัวเปรียบดั่งการโจมตีแบบ 2 รุม 1 และภาพเสมือนจริงจะมีกริยาการเคลื่อนไหวเช่นเดียวกับดีเคด คอมพลีท ฟอร์ม ทุกประการ

                                                                        ความคิดเห็น

                                                                        บทความที่ได้รับความนิยม